ทส.ลุยลด "ขยะบกสู่ทะเล" - โชว์แก้วิกฤติ "ขยะพลาสติก" แล้วกว่า 4 พันตัน
ขยะ...
ปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานานและนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นภาพสัตว์ทะเลที่ต้องตาย เพราะกินขยะเข้าไปเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่ภาพแพขยะขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางท้องทะเล จนกลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก ทั้งประเทศไทยยังถูกระบุว่า มีขยะในทะเลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพฤติกรรมการทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง ตลอดจนการจัดการที่ไม่ถูกหลัก จนส่งผลให้ขยะบกไหลลงไปสู่ทะเล
ไม่ต้องพูดถึงปริมาณขยะมูลฝอยที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ระบุว่า ในปี 2561 มีประมาณ 27.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 1.64%
นี่เป็นวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างแท้จริง จนรัฐบาลมีการประกาศให้...การกำจัดขยะเป็นวาระแห่งชาติ!
จนคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2561 เห็นชอบ “โครงการทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” และมอบให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดำเนินกิจกรรมลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและงดใช้โฟมบรรจุอาหารในหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วประเทศ
...
“ทส.ได้วางแนวทางแก้วิกฤติขยะในมิติต่างๆ ประกอบไปด้วย ลด–คัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมมือกับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ กำหนดเรื่องการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ ให้เป็นตัวชี้วัดประจำปีงบประมาณ 2562 สำหรับประเมินผู้บริหารองค์การ ปลัดกระทรวงและอธิบดี จำนวน 152 หน่วยงาน และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด โดยเริ่มประเมินผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดในวันที่ 1 ม.ค.2562 รณรงค์ “ทำความดี ด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก”
โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ใน 2 กลุ่มคือ พื้นที่ตลาดสดเทศบาลและเอกชนกับพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ผลการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2561 ถึงวันที่ 28 ก.พ.2562 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสดเทศบาลพร้อมกันทั่วประเทศลงได้จำนวนทั้งสิ้น 464,722,564 ใบ” พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส.ในฐานะเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบปัญหาขยะของประเทศระบุ
สำหรับในส่วนของการลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วได้ทั้งสิ้น 250,000,000 ใบ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติม รณรงค์ให้ห้างร้านงดให้บริการถุงพลาสติกต่อ
เนื่องในทุกๆวันที่ 4 ของเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย ส่งผลให้ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.2561-4 ก.พ.2562 สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วได้ 100,000,000 ใบ โดยรวมแล้ว
ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.2561-28 ก.พ.2562 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในตลาดสด และในห้างสรรพสินค้าร้านสะดวกซื้อได้ประมาณ 814,000,000 ใบหรือประมาณ 4,600 ตัน
นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร ขวดน้ำที่มีพลาสติกหุ้มฝาขวด หลอด และช้อน-ส้อม ที่ทำจากพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง-งดใช้โฟมบรรจุอาหารในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 154 แห่งทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.2561 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2562 มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 4,270,129 คน สามารถลดจำนวนพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งลดลงได้ทั้งหมด 1,639,920 ใบ
“ที่สำคัญยังมีมาตรการจัดการขยะบกสู่ทะเล เพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อมและวงจรห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ ในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล ผ่าน 4 กิจกรรมที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รับผิดชอบ ประกอบด้วย 1.จัดเก็บขยะตกค้างในระบบนิเวศโดยกำหนดเป้าหมายอย่างน้อยจังหวัดละ 2 ครั้ง และจัดทำมาตรการลดปริมาณขยะทะเลในพื้นที่เป้าหมาย 10 พื้นที่ ได้แก่ ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี พังงา ภูเก็ตและตรัง 2.โครงการชายหาดปลอดบุหรี่และปลอดขยะ 3.บริหารจัดการขยะทะเลโดยทุ่นกักขยะ ซึ่งจะจัดซื้อทุ่น 10 ชุด เพื่อจัดการขยะบริเวณปากแม่น้ำและคลองที่จะไหลลงสู่ทะเล และ 4.กำจัดขยะในพื้นที่ที่มีปัญหาเฉพาะ เช่น เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี” รมว.ทส.กล่าวถึงมาตรการลุยลดขยะบกสู่ทะเล
...
ล่าสุดประเทศไทยโดย ทส.เป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนวาระพิเศษ เรื่องขยะทะเล เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2562 ซึ่งที่ประชุมให้ความเห็นชอบปฏิญญากรุงเทพฯว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และกรอบปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติที่จะช่วยให้ลดปริมาณขยะทะเลด้วยความร่วมมือจากภาคเอกชน ที่จะพัฒนานวัตกรรม หรือการนำกลับไปใช้ใหม่ของผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะ
“ปี 2562 จะมีการยกเลิกขยะอิเล็กทรอนิกส์ 422 รายการ รวมถึงพลาสติกหุ้มขวดน้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผสมสาร oXo คือ พลาสติกที่ย่อยสลายได้ และไมโครบีดส์ สำหรับพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง จะมีการยกเลิกใช้ภายในปี 2565” พล.อ.สุรศักดิ์ระบุถึงแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
“ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม” มองว่า การแก้ปัญหาขยะที่เป็นปัญหาใหญ่ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกอย่างจริงจังถือเป็นเรื่องที่ดี
แต่สิ่งที่เราอยากฝากไว้คือ การแก้ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาตินั้น สำคัญที่สุดคือ ต้องลดความซ้ำซ้อน ทับซ้อนกันในการทำงาน ทั้งการบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มข้น จริงจัง และมีความเด็ดขาดกับผู้ทำผิด
...
เพื่อนำประเทศไทยไปสู่สังคมไร้ขยะอย่างแท้จริง.
ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม