เวลาเพียงไม่กี่ปีที่โดนเทคโนโลยีดิสรัปชัน ทำให้ทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต้องปรับตัวให้เข้าสภาพการณ์ แม้วันนี้ปัญหาการลดการจ้างงานของเราอาจจะไม่รุนแรงเท่ากับอีกหลายประเทศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศไม่ช้าก็เร็วย่อมต้องเกิดขึ้นกับไทยเช่นกัน

มีหนังสือขายดีเล่มหนึ่งชื่อ Only The Paranoid Survive ผู้ตื่นตัวเท่านั้นที่อยู่รอด เขียนโดย Andrew S. Grove วิศวกรยุคเริ่มแรกของบริษัทอินเทล (INTEL) ที่ไต่เต้าจนได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ที่สร้างความสำเร็จมากมายให้กับบริษัท หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2531 หรือ 31 ปีที่แล้ว ให้แง่คิดสำคัญว่า “ผลงานเป็นบ่อเกิดแห่งความชะล่าใจ ความชะล่าใจเป็นต้นตอของความล้มเหลว มีเพียงคนตื่นตัวเท่านั้นที่อยู่รอด” ซึ่งหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับบริษัทเอสเอ็มอี หรือแม้แต่ระดับยักษ์ใหญ่ในโลกธุรกิจ สะท้อนให้เห็นแล้วว่าผู้ตื่นตัวเท่านั้นที่อยู่รอด เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ไทยเป็นประเทศที่มีภูมิปัญญาของตัวเอง แต่องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่จะนำไปต่อยอดในภาคธุรกิจเพื่อใช้จริงนั้นยังน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แอปพลิเคชันฝีมือคนไทยมีมากมายพอสมควร แต่กลับไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย ไทยจึงเป็นผู้ตามด้านเทคโนโลยีมาโดยตลอด

กลุ่มทุนต่างชาติหลายเจ้าที่เข้ามาลงทุนในไทย ใช้เป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียน บริษัทกลุ่มทุนเหล่านี้ล้วนมีเทคโนโลยีของตัวเอง แต่เป็นไปได้ยากที่จะยอมแบ่งปันองค์ความรู้ให้กับไทย

อันที่จริงการศึกษาหาองค์ความรู้เพื่อปรับกลยุทธ์สามารถทำได้หลายวิธี ง่ายที่สุดคือ การศึกษาแบบเจาะจงองค์กรประเภทเดียวกัน ซึ่งการเลียนแบบ และ ประยุกต์ใช้ ถือเป็นเรื่องปกติในโลกธุรกิจ มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยที่ไปศึกษาดูงานต่างประเทศ แล้วนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ สามารถคงความเป็นผู้นำในธุรกิจได้ต่อไป

...

เดี๋ยวนี้บริษัททัวร์หลายแห่งมีบริการ พาไปศึกษาดูงานแบบเฉพาะเจาะจงในต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่เนื้อหอมที่สุดในปัจจุบันคือจีน ไม่ว่าจะเป็นวงการการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมอาหารเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมการผลิตแขนงต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจการซื้อขายออนไลน์ทั้งสินค้าและบริการ ฯลฯ

ยกตัวอย่าง บริษัทท่องไทยฮอลิเดย์ จากเดิมที่เน้นทำกรุ๊ปทัวร์วีไอพี ก็เริ่มหันมาเจาะลูกค้าองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ต้องการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ตามหัวเมืองสำคัญของจีน เช่น พาลูกค้ากลุ่มธนาคารไปเยี่ยมชม ธนาคาร China Construction Bank สาขาถนนจิ่วเจียง ที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็น “ธนาคารไร้พนักงาน” แห่งแรกและสาขาแรกในประเทศจีน เปิดให้บริการเมื่อเดือน เม.ย.2561

ธนาคารสาขานี้ไม่มีพนักงานคอยให้บริการลูกค้า แต่ใช้ หุ่นยนต์ Little Girl ทำหน้าที่แทนพนักงาน หุ่นยนต์ตัวนี้จะอยู่บริเวณห้องโถงทำหน้าที่เสมือน พนักงานต้อนรับ และพาลูกค้าไปที่ เครื่องให้บริการอัตโนมัติ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตัวเอง นอกจากนี้หุ่นยนต์ Little Girl มี ระบบจดจำใบหน้า สามารถระบุตัวตนเจ้าของบัญชีได้แม่นยำกว่าพนักงานทั่วไป

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือธนาคารแห่งนี้ริเริ่มใช้ เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง (VR) ให้ลูกค้าสวมใส่เพื่อดู ตัวอย่างบ้าน ห้องชุด คอนโดมิเนียม ในโครงการที่ธนาคารปล่อยกู้เป็นการช่วยลูกหนี้ขายของไปในตัว ซึ่งต่อมา เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย ก็เอาไอเดียนี้มาใช้เช่นกัน เวลาไปเร่ขายคอนโดมิเนียมให้กับคนจีนที่อยู่ในประเทศจีน ก็เอาแว่น VR ให้ลูกค้าใส่ดูภาพเสมือนจริง ดีกว่าให้ดูภาพจากโบรชัวร์หรือคลิปวิดีโอ

ทุกภาคธุรกิจล้วนต้องปรับตัวทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือเมื่อไปศึกษาเทคโนโลยีแล้วต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลจริง จึงจะประสบความสำเร็จได้.

ลมกรด