นร.-นศ.ก็เล่นชี้เงินที่เสียไปซื้อบ้าน-รถได้

ธนาคารทหารไทยเปิดผลวิจัย “หวย...ความฝันที่แลกด้วยเงินล้าน” พบ 1 ใน 4 ของคนไทยซื้อหวย 2.5 แสนล้านต่อปี ขณะที่มนุษย์เงินเดือน-เจ้าของธุรกิจ 12 ล้านคนเล่นหวย มีกลุ่มติดหวย 11% ทุ่มซื้องวดละ 800บาท ตลอดระยะเวลา 50 ปี คิดเป็นเงิน 1 ล้านบาท หรือสามารถนำไปซื้อบ้านได้ 1 หลัง

เรื่องราวของ “คนล่าหวย” ชอบเสี่ยงโชคหวังรวยทางลัด เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยนายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดผลวิจัยในหัวข้อ “หวย...ความฝันที่แลกด้วยเงินล้าน” ว่า ผลการศึกษาพฤติกรรมการซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดินของคนไทยพบว่ากลุ่มพนักงานประจำและเจ้าของธุรกิจ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนของประเทศกว่า 9 ล้านคน เสพติดหวย ที่ซื้อลอตเตอรี่หรือเล่นหวยใต้ดิน เพราะหวังรวยทางลัดและอยากเสี่ยงโชค แม้เศรษฐกิจไม่ดีก็ยังซื้อ

“1 ใน 4 ของคนไทยซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน รวมเป็นเงินกว่า 250,000 ล้านบาทต่อปี พูดง่ายๆคือคนไทยราว 20 ล้านคน ซื้อลอตเตอรี่และเล่นหวยใต้ดินเทียบเป็นมูลค่าในแต่ละปีเท่ากับ 3 เท่าของมูลค่าซื้อกองทุน LTF และ RMF หรือมองในมุมของเศรษฐกิจเทียบเท่ากับเม็ดเงินลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเลยทีเดียว เสียงสะท้อนจากสื่อโซเชียลส่วนใหญ่และผลสำรวจ พบว่า 55% ผู้ซื้อหวยมองหวยเป็นความฝันและความหวังที่ทำให้รวยและมีความเป็นอยู่ที่ดี แต่จากสถิติชี้ว่าโอกาสที่จะรวยจากการถูกรางวัลนั้นน้อยมากไม่ว่าจะเป็นลอตเตอรี่หรือหวยใต้ดิน โดยคนที่คาดหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มีอยู่ 44% แต่โอกาสถูกจริงเน้นว่าเป็นเพียง 1 ในล้านและคาดว่าจะถูก 2-3 ตัวบนล่างมีอยู่ถึง 78% แต่โอกาสถูกจริงคิดเป็น 0.4-2% เท่านั้น” นายนริศกล่าว

...

ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม คนไทยยังคงเสพติดหวยอย่างสม่ำเสมอ บ่งชี้จากในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในปี 2552 ระบุว่ารายจ่ายในการซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน ของคนไทยอยู่ที่ 340 บาท/เดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด เทียบกับในช่วงที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในปี 2560 รายจ่ายในด้านนี้อยู่ที่ 452 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด ตอกย้ำความเชื่อที่ว่า หวยเป็นความหวังที่ทำให้รวยและมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่รายได้ตกต่ำควรเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น แต่ก็ยังต้องการเสี่ยงโชคแทงหวย ทำให้มองว่าหวยจะมีบทบาทกลายเป็นสินค้าจำเป็นตามหลักเศรษฐศาสตร์เข้าไปทุกที

นายนริศกล่าวอีกว่า เมื่อเจาะลึกถึงผู้ซื้อลอตเตอรี่หรือหวยใต้ดิน พบว่าความเชื่อที่ว่าคนรายได้น้อยเท่านั้นที่เล่นหวย โดยกลุ่มคนที่มีรายได้สูงกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีการซื้อลอตเตอรี่และหวยเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 680 บาท คิดเป็น 1.2% ของรายได้ มากกว่ากลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 350 บาท คิดเป็น 2.2% ของรายได้ สำหรับกลุ่มคนวัยสร้างครอบครัว (อายุ 35-55 ปี) หรือมีภาระรับผิดชอบเยอะ เป็นกลุ่มที่ซื้อลอตเตอรี่และเล่นหวยหนักที่สุดเฉลี่ยเดือนละ 500 บาท มากกว่าวัยทำงานและวัยเกษียณที่เฉลี่ยต่อเดือนราว 400 บาท สถิติและผลสำรวจยังชี้ถึงประเด็นที่น่าตกใจว่า 10% ของจำนวนนักเรียนและนักศึกษาเล่นหวย โดยซื้อหวยต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 187 บาท เรียกว่าเริ่มเล่นหวยกันตั้งแต่ยังไม่มีรายได้ สาเหตุที่ซื้อเพราะมีแรงจูงใจมาจากผู้ปกครองและคนรอบข้าง และสื่อโซเชียล

นายนริศกล่าวตอนท้ายว่า ส่วนมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจเสพติดการเล่นหวยอยู่ในระดับใด พบว่ามีจำนวน 50% ของมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจ หรือประมาณ 12 ล้านคน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม มีสัดส่วน 26% แม้จะ “เล่นขำๆ” ซื้อหวย 225 บาทต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 50 ปี จะคิดเป็นเงินที่ซื้อหวย 300,000 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถนำมาจ่ายค่าประกันสุขภาพได้ 20 ปี ขณะที่กลุ่มที่ “ชอบหวย” มีสัดส่วน 63% ซื้อหวยอย่างน้อยเดือนละ ครั้งเป็นเงิน 420 บาท ตลอดระยะเวลา 50 ปี จะคิดเป็นเงิน 570,000 บาท นำมาซื้อรถซิตี้คาร์ได้ และกลุ่ม “ติดหวย” มีสัดส่วน 11% เล่นทุกงวด งวดละ 800 บาท ตลอดระยะเวลา 50 ปี จะคิดเป็นเงิน 1 ล้านบาท เท่ากับว่าสามารถซื้อบ้านได้ 1 หลังเลยทีเดียว