กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ยื่นฟ้อง “พงศ์พร” ผิดมาตรา 157 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ หลังพบ ข้อมูลมีอีก 7 วัดดัง ได้รับงบฯ อุดหนุนจัดการศึกษาก้อนเดียวกับวัดสามพระยาและวัดสัมพันธวงศ์ แต่กลับไม่ถูกแจ้งความ ทั้งที่ไม่มี ร.ร.พระปริยัติธรรม
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ นายพงศ์นรินทร์ อมรรัตนา ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต่อศาลในฐานความผิดแจ้งข้อกล่าวหาพระสงฆ์โดยมิชอบ ทำให้พระสงฆ์หลายรูปได้รับความเสียหายและถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาหลายเดือน
นายจรูญกล่าวว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาอนุมัติงบประมาณเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล จนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 72 ล้านบาท ให้กับ 9 วัด แต่กลับมีการ แจ้งความว่า มีวัดนำงบฯดังกล่าวไปใช้ผิดประเภทเพียง 2 วัด คือ วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศาราม โดยให้เหตุผลว่า ทั้งสองวัดไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ขณะที่อีก 7 วัด ที่ได้รับงบฯดังกล่าวเช่นกัน ทั้งวัดพิชยญาติการาม วัดเทพศิรินทราวาส วัดสุทัศนเทพวราราม วัด เทวราชกุญชร วัดบวรนิเวศวิหาร วัดอรุณราชวราราม วัดกวิศราราม จ.ลพบุรี ก็ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญฯ แต่ พ.ต.ท.พงศ์พรกลับไม่มีการแจ้งความ ดำเนินคดี
นายจรูญกล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลที่ได้รับมา ทราบว่า ทั้ง 9 วัดทำเรื่องของบประมาณไป ไม่ได้เป็นการของบฯด้านการจัดการศึกษา แต่ละวัดมีวัตถุประสงค์ ในการทำเรื่องของบฯต่างกันไป สำนักงานพระพุทธศาสนาในขณะนั้นกลับอนุมัติงบฯ อุดหนุนการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานมาให้ วัดไม่อาจทราบได้ว่าเป็นงบฯส่วนใด เข้าใจว่าเป็นงบฯตามวัตถุประสงค์ที่ขอไป ดังนั้น การที่ พ.ต.ท.พงศ์พร เลือกที่จะแจ้งความดำเนิน คดีกับวัดที่ได้รับงบฯนี้ เข้าลักษณะการกลั่นแกล้งหรือไม่และถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเข้าข่ายบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 หรือไม่ด้วย
...