ระดมกวาดล้างอีกหลายรอบก็ยังไม่หยุดอาละวาด
ขบวนการ คอลเซ็นเตอร์ เที่ยวหลอกโทรศัพท์ตุ๋น “ผู้เสียหาย” ให้โอนเงินผ่านธุรกรรมของธนาคารสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล
วันก่อน ข้าราชการครูสาวใหญ่วัยเกษียณ เพิ่งตกเป็นเหยื่อโดนหลอกเงินไปร่วม 2 แสนบาท เปลี่ยนวิธีการแยบยล แต่ยังอาศัยมุกเดิมพูดจาหลอกล่อจนผู้เสียหายหลงกล
เลือกช่วงเวลาเย็นวันอาทิตย์ใกล้ธนาคารปิดทำการ โทรศัพท์เข้าบ้าน อ้างโทรศัพท์จะมีปัญหาใช้การไม่ได้ประมาณ 20 นาทีถึงชั่วโมง ขอให้เปลี่ยนมาสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ สมอ้างเป็น ตำรวจอยู่ในจังหวัดสงขลา ระบุบัญชีธนาคารกรุงไทยมีปัญหา
มีพนักงานเอาชื่อและเอกสารสำเนาบัตรประชาชนไปใช้เป็นเครดิตทำสิ่งผิดกฎหมาย เธออาจโดนลากเข้าไปเกี่ยวพันข้อหา “หลอกลวง”
ธนาคารชาติจะอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดเป็นเวลาหลายเดือน
ผู้เสียหายวัยเกษียณฟังแล้วตกใจ ไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง ยอมทำตามคำแนะนำของตำรวจที่โอนสายคุยผ่านคนนั้นคนนี้เพื่อความน่าเชื่อถือ
สุดท้ายหว่านล้อมให้ไปเบิกเงินธนาคารกรุงไทยที่ห้างแห่งหนึ่ง จากนั้น นำเงินสดใส่ซอง โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพทางตู้เอทีเอ็ม บอกวิธีการเสร็จสรรพ แจงเหตุผลจะนำเงินไปเข้าระบบตรวจสอบแล้วจะโอนคืนกลับมาภายในไม่เกิน 1 ชั่วโมง
พอหลวมตัวเสียเงินไปแล้วกลับติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวไม่ได้ ถึงรู้ว่า ถูกหลอกแน่
เป็นช่วงเวลาธนาคารปิดทำการพอดี โทรศัพท์ไป “เบอร์ออนไลน์สายด่วน” ของธนาคารปลายทางก็ไม่มีคนรับสาย
กว่าจะได้เรื่องอีกทีเพื่อ “อายัดเงิน” ปาเข้าไปห้าทุ่ม คนร้ายถ่ายเทเงินออกนอกประเทศไปแล้ว
เธอตัดสินใจโทร. สายด่วน 1155 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตร. ขอคำปรึกษาและแจ้งความร้องทุกข์
...
นำไปสู่ปฏิบัติการลัดฟ้าบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดินแดนเวียดนาม.
สหบาท