จากผลงานการจับกุมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาต่อเนื่อง เห็นผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรม หากคนที่เดือดร้อนส่งข้อมูลร้องเรียนไปแล้วมีการช่วยเหลือติดตามทำให้เต็มที่
ผลงานของเพจ “สุรเชษฐ์ หักพาล” ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ รอง ผบช.ทท. ที่นำทีมตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ 191 ร่วมกันทำงานในยุค 4.0 ตอบโจทย์ของประชาชนในยุคสังคมออนไลน์
แต่ผลงานจับกุมและติดตามทรัพย์สินที่หายคืนมา กลับกลายเป็นช่องให้พวกแอบอ้างเอาชื่อเพจไปเรียกรับผลประโยชน์ในการทำคดี แก้ปัญหา แอบอ้างให้ความช่วยเหลือคนในสังคม
มีการพาดพิงว่า ประสานติดต่อโดยตรงมายัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
เอาชื่อเพจไปเรียกรับเงิน
ทั้งที่เพจเปิดมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วยใจและหน้าที่
ทางทีมงานเพจชี้แจงว่า ที่ผ่านมาเพจไม่ได้มีการประสานผ่าน “ตัวกลาง” คนไหนทั้งสิ้น
หากผู้เดือดร้อนต้องการร้องเรียน ให้ส่งข้อมูลผ่านทาง INBOX เพียงช่องทางเดียว ทีมงานทุกคนที่รับเรื่องล้วนแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสิ้น
หากผู้ใดถูกแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของคนอื่น และพาดพิงว่าจะประสานทีมงาน พล.ต.ต.สุเชษฐ์ จัดการให้ หรือ ประสานหน่วยงานอื่นๆจัดการให้
ให้แจ้งข้อมูลมาทางเพจ สุรเชษฐ์ หักพาล พร้อมหลักฐาน
จะได้ตามจับกุมดำเนินคดีมาประจานกันบ้าง เพื่อไม่ให้ไปหลอกหากินแบบนี้อีก
ไม่ปล่อยให้มีพวกมาแอบอ้าง เอาผลงานของเพจ สุรเชษฐ์ หักพาล ไปหากินเรียกรับผลประโยชน์
ตำรวจท่องเที่ยวยืนยัน เป็นเพจที่ทำงานเพื่อแก้ความเดือดร้อนของประชาชน โดยไม่เคยคิดหวังผลตอบแทน ไม่เคยไปคบค้าสมาคม ชมรม ไม่เคยนัดส่วนตัว
หรือเรียกรับผลประโยชน์จากการทำคดีแต่อย่างใด
...
อย่าหลงเชื่อพวกแอบอ้าง
เป็นอีกตัวอย่างที่เป็นภัยสำหรับคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ถูกนำชื่อไปใช้เรียกรับผลประโยชน์ ไม่สนใจคนที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนใหญ่ชอบมาตีสนิท ขอถ่ายภาพ
นำไปใช้ “แอบอ้าง” หลอกคนอื่นให้หลงเชื่อ หาผลประโยชน์ส่วนตัว
ยังมีคนประเภทเหล่านี้อยู่อีกมากในสังคมไทย อาศัยใช้เป็นช่องทางทำมาหากิน
สงสารคนที่ไม่รู้เรื่อง ตกเป็นเหยื่อถูกหลอก.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th