ต้องตีปี๊บดังๆ เมื่อรัฐบาลประกาศเลิกอนุญาตนำเข้าขยะพิษมาในประเทศแล้ว?!?

ถือเป็นความสำเร็จของสังคมโดยรวม ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน...

แต่ยังวางใจไม่ได้จนกว่าคำสั่งจะออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ต้องตามดูชนิดตาไม่กะพริบ เพราะขอบอกว่ากลุ่มขบวนการเหล่านี้มีอิทธิพลไม่ธรรมดา?

ยกตัวอย่างให้เห็นกันจะจะ...นับตั้งแต่ตำรวจชุด พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เริ่มกวาดล้างขยะอิเล็กทรอนิกส์-พลาสติกนำเข้าผิดกฎหมายตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2561

ตรวจค้นโรงงานไปแล้ว 19 แห่ง พบขยะพิษร่วม 2 แสนตัน!

แต่ถูกนักธุรกิจวงการรีไซเคิลและนักการเมืองที่เสียผลประโยชน์ วิ่งเต้นใช้เส้นสายคอยเตะตัดขาไม่ให้เข้าไปตรวจค้นโรงงานในเครือข่าย บางครั้งถึงขนาดจับแล้วหมกเม็ดหายไปดื้อๆ?!?

อย่างเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นโรงงาน 2 แห่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขยายผลตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ ในท่าเรือแหลมฉบัง พบของกลางในตู้คอนเทนเนอร์บริษัทแห่งหนึ่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี นำตัวผู้ดูแลมาสอบปากคำ

ระหว่างนั้นมี “ไอ้โม่ง” โทร.มาสอบถาม หลังจากนั้นชื่อบริษัทดังกล่าวหายไปเลย?

นอกจากนี้ เมื่อชุดปฏิบัติการขอรายชื่อบริษัทนำเข้าพลาสติกปี 2561 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่งรายชื่อกลับมาให้ทั้งหมด 26 บริษัท

แต่จากการตรวจสอบการนำเข้าของกรมศุลกากรพบว่ามันหายไป 2 บริษัท!

และ 1 ใน 2 บริษัทคือ บริษัทที่ถูกจับกุมที่ สภ.บางพลีใหญ่ไม่ใหญ่คิดเอาเองแล้วกัน?

งานนี้ใครหมกเม็ด เตรียมรับผิดชอบด้วย...เพราะแว่วมาว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้กลิ่นไม่ดี แอบเรียกชุดปฏิบัติการบางคนเข้าไปให้ข้อมูลทางลับแล้ว

...

เพราะบริษัทที่ลักลอบนำขยะอันตรายสำแดงเท็จเข้ามา เข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษี กำลังดูว่าเข้าข่ายกฎหมายฟอกเงินด้วยหรือไม่?

งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องโดนจัดหนัก...หรือว่าจะมีแรงวิ่ง ปปง.อีกหว่า!?

สหบาท