กกท.รับลูกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดตั้ง "เมืองกีฬา Sports City" พัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาครบวงจร ยกไทยเป็นฮับด้านกีฬาแห่งอาเซียน

วานนี้(15 พ.ค.61) นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย จะดำเนินการคัดเลือกเมืองต้นแบบในการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) ตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2560-2564) ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬา เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาแบบครบวงจร สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ด้านอุตสาหกรรมการกีฬา (Sports Industry) การกีฬาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Sports Tourism) และการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาของภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้อุตสาหกรรมกีฬาถือว่าเป็นอีกอุตสาหกรรมที่น่าสนใจที่เติบโตอย่างแพร่หลายในทุกประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมการกีฬาโลกสามารถสร้างรายได้รวมอยู่ที่ 5-6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 3.8% ต่อปี ซึ่งสร้างผลทวีคูณทางเศรษฐกิจในอัตรา 2.3 สำหรับอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศไทยนั้นในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 4.6% ในปี 2558 มีผลประกอบการรวม 2.4 แสนล้านบาท จำนวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกีฬาทั้งหมด 9,842 ราย และปัจจุบันก็มีการสนับสนุนจากภาครัฐให้เกิดสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมกีฬามากขึ้น รวมถึงประชาชนก็เกิดกระแสนิยมกีฬาในประเทศ ทั้งฟุตบอลไทยลีก และกิจกรรมการวิ่งต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยได้รับมอบหมายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2560-2564) ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬา เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการกีฬาแห่งประเทศไทย มีหน้าที่ในการสนับสนุน ส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และกีฬาเพื่อการอาชีพ ซึ่งการพัฒนาการกีฬาและอุตสาหกรรมกีฬาแบบครบวงจรในทุกมิติ จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาบุคลากรกีฬา และผู้จัดการแข่งขันกีฬา ให้มีขีดความสามารถและประสบความสำเร็จในระดับชาติ และนานาชาติ รวมทั้งสามารถสร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงนำไปสู่การกีฬาส่งเสริมการท่องเที่ยว (Sports Tourism) รวมถึงการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านกีฬาในระดับภูมิภาคอาเซียน เป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างกระแสความตื่นตัวให้ประชาชนหันมาเล่นกีฬา ออกกำลังกายเพื่อพลามัยที่ดี อีกทั้งยังเป็นการจุดประกายให้ในแต่ละจังหวัดได้พัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถจนพัฒนาไปสู่ระดับประเทศและระดับนานาประเทศในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

...

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ขอชื่นชมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้ผลักดันให้มีการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) จะเป็นแนวทางในการส่งเสริม และพัฒนานักกีฬาคนพิการของจังหวัด ทำให้ได้รับโอกาสการพัฒนาอย่างทั่วถึง นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เมืองกีฬา (Sports City) จะได้พัฒนา และสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นแต่ละจังหวัดและประเทศอีกทางหนึ่ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในส่วนของกรรมการพาราลิมปิก ซึ่งดูแลรับผิดชอบนโยบายพัฒนากีฬาคนพิการในประเทศไทย ยินดีร่วมมือและส่งเสริมให้นักกีฬา คนพิการ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมในกิจกรรม ต่างๆ ของเมืองกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของผู้ชมกีฬาที่เป็นคนพิการ โดยอยากฝากถึงจังหวัดต่างๆ ที่จะเข้ามาเสนอตัวเพื่อรับการคัดเลือกเป็นเมืองกีฬาให้พยายามพัฒนา จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาคนพิการ ระบบการคมนาคม และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเข้าแข่งขัน และเข้าชมการแข่งขันกีฬาต่างๆ ของคนพิการในจังหวัดตนเองด้วย

ขณะที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) เพราะคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานของจังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) มีมติเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์ และแนวทางแผนพัฒนาจังหวัด (พ.ศ.2561) ให้การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่นดิน และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งในแผนพัฒนาจังหวัดได้กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดให้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ด้วยการเล่นกีฬา และออกกำลังกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง การจัดตั้งเมืองกีฬา (Sports City) จะเป็นกลไกสำคัญที่จะกระตุ้นให้ประชาชนในจังหวัดหันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬา ซึ่งจะพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี  รวมทั้งก่อให้เกิดรายได้ในท้องถิ่นจากการจัดกิจกรรมกีฬา เป็นการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมกีฬา รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

นายสังเวียน บุญโต รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า ในขั้นตอนการจัดตั้งเมืองกีฬา ขณะนี้ได้ร่างกำหนดเกณฑ์พิจารณา และเสนอหลักเกณฑ์ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อนุมัติทั้ง ตัวหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และจากการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเมืองกีฬา (Sports City) ประจำปี พ.ศ.2561 ได้เห็นชอบการคิดคะแนน การพิจารณาคัดเลือกเมืองกีฬา (Sports City) ในแต่ละส่วน ตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกเมืองกีฬา (Sports City) ที่แต่ละจังหวัด จะส่งข้อมูลการเสนอตัวเป็นเมืองกีฬา (Sports City) ของแต่ละจังหวัด ให้คณะกรรมการฯ พิจารณา ซึ่งได้ประกาศหลักเกณฑ์การคัดเลือกออกไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้แต่ละจังหวัดได้เตรียมการและเสนอตัวเป็นเมืองกีฬา โดยจังหวัดที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการสนับสนุนในด้านงบประมาณ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยกำหนดให้จังหวัดต่างๆ ส่งรายชื่อและรายละเอียดข้อมูลของจังหวัดเข้ามารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเมืองกีฬาประจำปี 2561 ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2561 และเข้าสู่กระบวนการพิจารณา โดยคณะกรรมการฯ จะพิจารณาครั้งสุดท้าย และนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จนกระทั่งจะตัดสินและประกาศผลเมืองกีฬาแห่งประเทศไทยประจำปี 2561 หรือ Thailand Sports City Awards 2018 ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ จังหวัดที่สนใจเข้าร่วมโครงการ จะต้องจัดส่งเอกสารเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 นี้

ในวันประกาศผลเมืองกีฬาดังกล่าว การกีฬาแห่งประเทศไทยจะได้ทำการถ่ายทอดสดบรรยากาศการพิจารณาในรอบสุดท้าย และพิธีประกาศผลพร้อมทั้งมอบรางวัลในวันเดียวกันทางโทรทัศน์ด้วย จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกสาขาได้รับรู้และประชาสัมพันธ์แนวทาง คณะกรรมการ และหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก เมืองกีฬา  (Sportss City) ประจำปี 2561 ไปยังประชาชนด้วย.

...