สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่องมาก แต่อยากจะนำเสนอเรื่องด่วนในวงการบ้านแชร์ ซึ่งตอนนี้มิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ในบ้านแชร์ และหากินอยู่ในบ้านแชร์แบบเงียบๆ ได้เงินเยอะ แถมไม่ค่อยมีใครเอาเรื่อง เนื่องจากยอดเงินที่หลอกไปนั้น เป็นจำนวน 1,000 ถึง 2,000 บาท ต่อคน ทำให้ผู้เสียหายไม่อยากเสียเวลา และโดยนิสัยคนไทยมักคิดว่าเป็นการฟาดเคราะห์ ทำให้มิจฉาชีพได้ใจ และยังคงหลอกคนที่ยังไม่รู้ต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อก่อนมิจฉาชีพมักจะหลอกเหยื่อด้วยวิธีการโพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ให้กู้ยืมเงิน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือบุคคลค้ำประกัน ให้จำนวนเงินที่กู้ยืมประมาณสี่เท่าของฐานเงินเดือน คิดอัตราดอกเบี้ยถูก และมีระยะเวลาในการผ่อนชำระนาน ทำให้มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน โดยหวังว่าเงินก้อนดังกล่าวนั้น จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ในขั้นตอนของการทำเรื่องขอกู้ยืมเงินนั้น มิจฉาชีพจะขอค่าดำเนินการ ค่าจัดทำเอกสาร เป็นเงินประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อคน ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับจำนวนเงินกู้ที่กำลังจะได้เป็นเงินหลายหมื่นบาท สุดท้าย เมื่อมีการโอนเงินค่าดำเนินการให้แก่มิจฉาชีพแล้ว เหยื่อก็จะถูกบล็อกเบอร์โทรศัพท์ บล็อค Facebook บล็อกแอปพลิเคชัน LINE และทุกช่องทางการสื่อสาร หายเงียบเข้ากลีบเมฆ ซ้ำเติมเหยื่อที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ให้มีความทุกข์เพิ่มขึ้นไปอีก ปัจจุบันเหยื่อที่ถูกหลอกช่วยกัน เผยแพร่ประสบการณ์ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มิจฉาชีพหากินยากขึ้น
ที่น่าเป็นห่วง และต้องรีบแจ้งเตือนให้แก่ประชาชนได้รับทราบ คือ มิจฉาชีพได้เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย จากเดิมเป็นเพื่อนที่อยู่ใน Facebook ไปเป็นกลุ่มของสมาชิกบ้านแชร์ต่างๆ ใน Facebook
...
วิธีการหลอกเหยื่อของมิจฉาชีพก็จะใช้วิธีเหมือนเหมือนเดิม คือ โพสต์ในกลุ่มของบ้านแชร์ โดยให้กู้ยืมเงินสำหรับการลงทุนในบ้านแชร์ ดอกเบี้ยอยู่อัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ผ่อนน้อย ระยะเวลาผ่อนนาน
เมื่อความโลภเข้าบังตาท่านก็จะตกเป็นเหยื่อทันทีครับ เนื่องจากในบ้านแชร์การลงทุนจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 10 ทุก 10 วัน แต่การผ่อนชำระเงินกู้ที่มิจฉาชีพตั้งกระทู้หลอกนั้น คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน จะทำให้เหยื่อมองเห็นส่วนต่าง หรือกำไร อัตราร้อยละ 20 ต่อเดือนของเงินที่ลงทุน บางคนไม่มีเงินลงทุน แต่เมื่อเห็นข้อความเชิญชวนของมิจฉาชีพก็ต้องการจับเสือมือเปล่า ต้องการเอาเงินกู้มาลงทุน แบบไม่ต้องควัก ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก โดยเหยื่อจะต้องเสียค่าสมัครสมาชิก ค่าดำเนินการ และค่าภาษีอากร จำนวน 2,000 บาทต่อคน โดยในบ้านแชร์หนึ่งหลัง จะมีสมาชิกอยู่ประมาณ 300 ถึง 500 คน เรียกได้ว่า มิจฉาชีพนอนรอกินเงินเหยื่อแบบสบายๆ เมื่อได้เงินจากเหยื่อแล้ว มิจฉาชีพก็จะดำเนินการเหมือนเดิม โดยบล็อกโทรศัพท์ บล็อก Facebook และบล็อก LINE
ส่วนใหญ่เหยื่อไม่ดำเนินคดี หรือเข้าแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเงินเล็กน้อย และเป็นการฟาดเคราะห์ จึงทำให้มิจฉาชีพลอยนวลหากินอยู่ในโลกออนไลน์อย่างสบายใจ และพยายามสรรหาวิธีมาหลอกลวงเหยื่อไปเรื่อยๆ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับการเพิกเฉยเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย แต่หากท่านดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ และขอให้ตำรวจอายัดเงินในบัญชีที่ท่านโอนไป ท่านจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อีกมากมายครับ
ในการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและได้ไป ซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวงดังกล่าวนั้น มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และมาตรา 343
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอก ลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 341 ได้กระทำ ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิด ความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
“ มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา .......”
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านพึงระลึกอยู่เสมอว่า ของดีราคาถูกไม่มีในโลก การลงทุนที่ใช้เงินน้อย แต่ได้ผลตอบแทนมากนั้น ไม่ได้ง่าย ถ้ามีอยู่จริงเค้าคงจะลงทุนเองแล้ว จะมาบอกเรา เพื่อประโยชน์อะไร
...
สำหรับผู้ที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลล์มาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com หรือ Facebook: ทนายเจมส์ LK ได้เลย