ใช้ระบบบัญชีเอกชนอุดจุดบอด ปลื้มครูสมัครกลุ่มไลน์ได้ข่าวสารเร็ว

ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มีหนังสือสั่งการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทุจริต โดยกำชับให้องค์กรหลัก ศธ.ทุกหน่วยงานดำเนินการเรื่องระบบตรวจสอบบัญชีของหน่วยงานตัวเองให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ เนื่องจากรัฐบาลได้สั่งการให้ทุกกระทรวงปราบทุจริต เพราะที่ผ่านมาเราก็เห็นถึงกรณีกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตที่เกิดขึ้นแล้วว่า กองทุนก่อตั้งมา 10 ปี แต่ระบบตรวจสอบกลับมีความบกพร่อง ดังนั้น ระบบตรวจสอบบัญชีของทุกหน่วยงานจะต้องตรวจสอบได้ว่าระบบการโอนเงินของหน่วยงานเป็นแบบไหน บุคคลที่รับผิดชอบกับระบบการเงินต้องตอบได้ว่า โอนเงินไปแล้วผู้รับเงินเป็นใคร ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ชัดเจน ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณค่อนข้างมาก มีกองทุนใหญ่ 2 กองทุน คือ กองทุนอาหารกลางวัน กองทุนนักเรียนพิการ ซึ่งตนจะแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบด้วย ดังนั้น ในกลุ่มตรวจสอบภายในของ สพฐ.จะวางมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการนำระบบของภาคเอกชนเข้ามาใช้ เช่น ต้องมีการสุ่มตรวจบัญชีปลายทางผู้รับเงิน เป็นต้น เพื่อให้การตรวจสอบระบบการจัดทำบัญชีมีความรัดกุมมากขึ้น

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สพฐ.ยังได้จัดทำระบบออฟฟิศเชียลไลน์ขึ้น ซึ่งขณะนี้มีครูสมัครเข้าร่วมระบบนี้แล้ว ประมาณ 70,000 คน เพราะที่ผ่านมาแม้เราจะมีโรงเรียนกว่า 30,000 โรง มีครูในสังกัดอีก 400,000 คน แต่กลับพบว่านโยบายด้านการศึกษาต่างๆ ที่สั่งการผ่านกระบวนการจากส่วนกลางลงไปที่เขตพื้นที่กลับล่าช้า ซึ่งตนมองว่าหากเราไม่สามารถสื่อสารถึงครูและโรงเรียนได้ การปฏิรูปการศึกษาก็คงไม่สำเร็จ ดังนั้น ตั้งระบบออฟฟิศเชียลไลน์ขึ้นจึงทำให้ตอบสนองงานนโยบายจากส่วนกลางได้อย่างเต็มที่ ซึ่งครูได้รับข่าวสารต่างๆได้รวดเร็วขึ้น และแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ต่างๆด้วย.

...