หลังพบการสอบยืดเยื้อ กุนซือกฎหมายแนะใช้อำนาจปกครองสั่งการ
พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้จัดประชุมมอบนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎหมาย แก่นิติกรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ใน 4 ภูมิภาค เพื่อให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรมีความรู้ด้านกฎหมายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ฉบับใหม่ที่มีการใช้บังคับ ซึ่งจากการประชุมทั้ง 4 ภูมิภาคพบจุดอ่อนว่า เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศยังขาดนิติกรเป็นจำนวนมาก นิติกรที่มีส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพแต่อายุมาก ส่วนที่เพิ่งเข้ามาก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น จะต้องเร่งเติมเต็มจำนวนนิติกรให้เพียงพอ รวมทั้งเพิ่มองค์ความรู้เรื่องกฎหมายให้แก่นิติกรรุ่นใหม่ให้มากขึ้นด้วย
ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ทั้งยังมีเสียงสะท้อนอีกว่าระบบการตรวจสอบภายในของเขตพื้นที่ ปัจจุบันเป็นเพียงกลุ่มงานหนึ่งในสำนักงานเขตพื้นที่เท่านั้น เวลานิติกรเสนอความเห็นหรือข้อโต้แย้งก็ทำได้ไม่เต็มที่เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ จึงเสนอขอให้ระบบตรวจสอบภายในขึ้นกับ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาโดยตรงจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นด้วย เพราะสำนักตรวจสอบภายในของกองทัพบกก็ขึ้นตรงกับผู้บัญชาการทหารบกโดยตรง เพราะถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญต้องมีความเป็นอิสระและคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
พล.ท.โกศลกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการสืบข้อเท็จจริง ส่งผลให้การตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีต่างๆใช้เวลาสืบนานมาก การตรวจสอบ โครงการปรับปรุงห้องเรียนและห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการสืบมากว่า 5 ปีก็ไม่เสร็จสิ้น ขณะที่โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ยืดเยื้อยาวนาน ดังนั้น ตนจะหารือกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ว่าจะให้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ซึ่งฝ่ายกฎหมายของ ศธ.ให้ข้อแนะนำว่ารัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจทางปกครองกำหนดกรอบระยะเวลาในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้ ซึ่งตนจะนำข้อเสนอทั้งหมดรายงานให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบต่อไป.
...