พูดถึง “ปลาชะโด” คนไทยเป็นเบือนหน้าหนี รสชาติจืด แข็ง คาว เทียบไม่ได้กับปลาช่อน สัตว์น้ำตระกูลเดียวกัน...แต่วันนี้ภาพลักษณ์ที่ฝังใจคนไทยมาช้านาน ได้กลายเป็นนุ่ม ไม่คาว ความอร่อย เชฟภัตตาคาร 5 ดาว ยกให้อยู่ระดับเดียวกับปลากะพง หรือปลาเก๋า
ที่สำคัญเกษตรกรบ้านเราใน 8 จังหวัด จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, พิษณุโลก, อุตรดิตถ์, นครสวรรค์, อ่างทอง, สุพรรณบุรี ได้รวมตัวกันเป็น “กลุ่มจ๊อดปลาชะโดไทย” ซุ่มเลี้ยงกันแบบเงียบๆมานานร่วมกว่า 30 ปี ส่งขายสิงคโปร์ มาเลเซียปีละเกือบ 10,000 ตัน...แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่เคยได้ลิ้มชิมรส
...
ชะโดที่ว่าไม่ใช่ปลาชะโดที่หาได้ตามธรรมชาติในบ้านเรา...เป็นปลาชะโดผ่านการปรับปรุงพันธุ์มาจากสิงคโปร์
“เรื่องเริ่มจากปี 2523 มีนักธุรกิจสิงคโปร์มาเลเซียต้องการหาปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ เนื้อเยอะ ก้างน้อย ไปพัฒนาให้เป็นปลาเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ จนในที่สุดได้ปลาชะโดจากเขื่อน จ.กาญจนบุรี หลังจากเงียบหายไป 1-2 ปี นักธุรกิจคนเดิมเอาพ่อแม่พันธุ์ปลาชะโดมาให้กลุ่มเราเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ พร้อมสอนวิธีการเลี้ยงให้เรียบร้อย โดยสิงคโปร์ยินดีรับซื้อปลาทั้งหมด ส่วนพันธุ์ปลาที่นำมาให้เลี้ยง จะมีการปรับปรุงพันธุ์ยังไงเราไม่รู้ ทราบแต่เพียงรสชาติดี ไม่เหมือนปลาชะโดบ้านเราเท่านั้นเอง”
ศักดิ์สิทธิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์ หนึ่งในสมาชิก กลุ่มจ๊อดปลาชะโดไทย เผยถึงที่มาของการเลี้ยงปลาชะโดที่คนไทยไม่เคยมีโอกาสได้ชิม...เริ่มมีการเลี้ยงเงียบครั้งแรกเมื่อปี 2525 ในบ่อดินที่ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่แค่ 50 ไร่ แต่ปัจจุบันขยายพื้นที่ออกไปเป็น 1,000 ไร่ แบ่งเลี้ยงในบ่อขนาด 10 ไร่ ลึก 2.5 ม. นำลูกปลาอายุ 3 เดือน ตัวละ 3 บาท จำนวน 4,000 ตัว มาปล่อยลงบ่อ แต่เอาตาข่ายตาถี่มากั้นล้อมเป็นคอกขนาด 30×30 ม. เพื่อจะได้สะดวกในการให้อาหารที่ทำมาจากปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาข้างเหลือง หรือปลาหางแข็งบดละเอียด วันเว้นวัน ครั้งละ 100 กก.
อายุ 7-8 เดือน รื้อคอกตาข่ายออก ปล่อยให้ปลาว่ายน้ำเต็มพื้นที่บ่อ 10 ไร่ ช่วงนี้ให้อาหารเป็นปลาสับ วันเว้นวันเหมือนกัน ครั้งละ 1 ตัน...อายุได้ 13 เดือน เพิ่มเป็น 1.5 ตัน... อายุ 16 เดือน เพิ่มเป็น 2.5 ตัน ไปจนจับขายเมื่ออายุได้ 18 เดือน
จะได้ปลาน้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 3-4.5 กก. ขายได้ราคา กก.ละ 190 บาท มีอัตรารอด 70-80%
...
ด้วยวิธีเลี้ยงให้อาหารเป็นปลาทะเลหลักนี่เอง ศักดิ์สิทธิ์ บอกว่า น่าจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รสชาติเนื้อปลาชะโดพันธุ์นี้ถึงได้ต่างไปจากปลาชะโดธรรมชาติ จนเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก ทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกา...คนไทยสนใจจะลองชิม ติดต่อได้ที่ 08-1868-1167 มีทั้งแบบเป็นตัว แล่เป็นชิ้นๆ ให้นำไปปรุงอาหารได้สารพัดเมนู.
ชาติชาย ศิริพัฒน์