ตลอดระยะเวลา 37 ปีของกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครเหนือ

ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2503 ได้ พ.ต.อ.วิเชียร แสงแก้ว เป็น ผู้นำหน่วยคนแรก

สืบสวนเหนือสร้าง “ตำนานมือปราบ” พิชิตผลงานโบแดงระดับชาติประดับอยู่ในทำเนียบวงการสีกากีไว้มากมาย ก่อนจะยุบสลายกระจายหายไป เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2540 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย

พ.ต.อ.วิวัฒน์ วรรธนะวิบูลย์ กลายเป็น ผู้นำคนสุดท้าย

แต่ความทรงจำของนักสืบหลายคนยังไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา

วันก่อน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา และ พล.ต.ท. จิรสิทธิ์ มหินทรเทพ เป็นแม่งานนัดพบปะสังสรรค์ “ศิษย์เก่าสืบสวนเหนือ-สืบสวนนครบาล 1” ที่ร้านโอวยั๊วะ รีเวอร์เทอเรส พระราม 7 เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเหล่าเพื่อนร่วมอาชีพในอดีต

มี พล.ต.ต.วาทิน คำทรงศรี พล.ต.ต.คงเดช ชูศรี และ พ.ต.อ.สัญจัย บุณยเกียรติ มือพระกาฬรุ่นเก๋าอาวุโสสุดมาแลกบทสนทนาฉากคดีสำคัญสมัยทำงานนอกเครื่องแบบกันอย่างออกรสออกชาติ

แม้ปัจจุบันรูปแบบการทำงานสืบสวนเปลี่ยนไปตามโลกเทคโนโลยี ทำตำรวจนักสืบรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสเห็นการทำงานตามแบบฉบับนักสืบรุ่นเก่า

ปลอมตัว เฝ้าจุด สะกดรอย คอยเวลาดักหิ้วผู้ต้องหา

เสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย เสี่ยงคุก เสี่ยงตะรางจนบางครั้งเกือบตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง

สมัยนั้นพวกเขาได้อาจารย์ที่ดีเปรียบเสมือนพี่ และผู้บังคับบัญชาในเวลาเดียวกัน คอยปลูกฝังอบรมสั่งสอนเพื่อผลิต ทายาทนักสืบรุ่นใหม่ ขึ้นมาทดแทนไม่ขาดตอน

หลายคนอยู่ตั้งแต่วัยรุ่น ขึ้นมาเป็นวัยฉกรรจ์ ก่อนร่วงโรยไปตามระยะเวลา ใครได้เกษียณอายุราชการก็เหมือนลงจากหลังเสือ ถือว่า โชคดีเป็นกำไรชีวิต

พวกเขาสัมผัสวิวัฒนาการของนักสืบตั้งแต่ลุยล่าผู้ร้ายนอกระบบ แล้วหันมาเลี้ยงสายไว้จับโจร กระทั่งแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน สุดท้ายได้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการสืบสวน

...

โลกของนักสืบเปลี่ยนไป พร้อมหัวใจของผู้เป็นนายบางคน.

สหบาท