ทุเรียนชนิดนี้ เป็นสายพันธุ์เก่าแก่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วไปเกือบทุกภาคในประเทศไทยมาช้านานแล้ว มีชื่อเรียกกันเรื่อยมาว่า “ทุเรียนชมพูศรี” ซึ่งในยุคสมัยก่อนได้รับความนิยมรับประทานอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเนื้อสุกมีรสชาติหวานมันรับประทานอร่อยมากนั่นเอง ปัจจุบันต้นแม่ที่ปลูกกันไว้เหลือน้อยลงและบางพื้นที่หลายจังหวัดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว จึงทำให้หาซื้อเนื้อของ “ทุเรียนชมพูศรี” รับประทานได้ยากมาก หากไม่ช่วยกันปลูกอนุรักษ์ไว้เชื่อว่าอีกไม่นาน “ทุเรียนชมพูศรี” จะต้องสูญพันธุ์ไปจากสารบบของทุเรียนดีอย่างแน่นอน

ทุเรียนชมพูศรี มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นทุเรียนทั่วไปเกือบทุกอย่างคือ เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 5-8 เมตร “ผล” รูปทรงกลมรีและยาวดูเหมือนรูปหัวใจ ปลายก้นผลบุ๋มเล็กน้อย เปลือกผลสีน้ำตาลปนเขียว เปลือกผลบาง เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมชมพูนิดๆเนื้อละเอียด เมล็ดเล็ก รสชาติหวานมันกลมกล่อมรับประทานอร่อยมาก น้ำหนักผลเมื่อโตเต็มที่เฉลี่ยระหว่าง 3-6 กิโลกรัมต่อผล ปัจจุบันราคาขายหน้าสวนประมาณ 250–300 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ซึ่ง “ทุเรียนชมพูศรี” มีดอกและติดผลดกตามฤดูกาลคือระหว่างเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และเสียบยอด ปลูกได้ในดินทั่วไป ลำต้นทนโรคได้สูง ต้นโตเร็วให้ผลผลิตได้หลังปลูกเพียง 3-4 ปีเท่านั้น เพราะเป็นต้นที่ขยายพันธุ์ด้วยการเสียบยอด ไม่ใช่ต้นที่เพาะจากเมล็ดเหมือนกับการปลูกต้นทุเรียนสมัยโบราณที่นิยมปลูกจากต้นที่เกิดจากการเพาะเมล็ด

ใคร ต้องการต้นพันธุ์แท้ของ “ทุเรียนชมพูศรี” ไปปลูกเพื่อรับประทานเนื้อในครัวเรือน หรือปลูกอนุรักษ์ป้องกันไม่ให้ทุเรียนโบราณสูญพันธุ์ ติดต่อศูนย์อนุรักษ์รวบรวมพันธุ์ทุเรียนโบราณหายากสายพันธุ์ไทยกับ “สวนสมศักดิ์การเกษตร” บ้านหนองเต่า 93 หมู่ 8 ต.ไม้เค็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โทร. 08-1948-4916, 08-4561-5277 ต่างจังหวัดสามารถจัดส่งทางไปรษณีย์ได้ พร้อมมีคู่มือการปลูกและดูแลแจกฟรีให้ด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.

...

“นายเกษตร”