เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกขณะที่เจ้าคณะกทม.ห้ามวัดโฆษณาวัตถุมงคลมอมเมา

เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกมีคำสั่งพระสังฆาธิการคุมเข้มพฤติกรรมพระ-เณร ไม่ให้มีพฤติกรรมเสื่อมเสียสร้างความมัวหมองแก่พระพุทธศาสนา ห้ามวิพากษ์ วิจารณ์กระทบความมั่นคงสถาบัน ขณะที่เจ้าคณะ กทม. สั่งทุกวัดห้ามติดแผ่นป้ายโฆษณาเช่าพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล งดใช้โบสถ์จำหน่ายวัตถุมงคล ชี้เป็นสถานที่ทำสังฆกรรมเท่านั้น

พระภิกษุสงฆ์และสามเณรที่ทำผิดพระวินัยสร้างความเสื่อมเสียหรือทำความมัวหมองให้พระและวัตถุมงคลพุทธศาสนาสะเทือนแน่ หลังคำสั่งเจ้าคณะหนใหญ่ตะวันออกคุมเข้มพระเณร รวมทั้งคุมเข้มการจำหน่ายพระเครื่องตามวัดต่างๆ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก มีคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ที่ 1/2560 ลงวันที่ 28 ก.ย. เรื่อง ให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง โดยระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) ถึง (5) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ เห็นสมควรให้พระสังฆาธิการตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง ดังต่อไปนี้

1.พระภิกษุสามเณรผู้ทำการอันละเมิดกฎหมายบ้านเมือง และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้พระสังฆาธิการดำเนินการตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศมหาเถรสมาคมที่เกี่ยวข้อง และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดกับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว

2.พระภิกษุสามเณรผู้วิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงตนในทางกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน หรือส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น ทำลาย ก้าวร้าวรุนแรง และไม่สร้างสรรค์ ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้กระทำการเช่นว่านั้น หากเข้าข่ายละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ให้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

...

3.พระภิกษุสามเณรผู้มีความประพฤติเสียหาย หรือไม่เหมาะสม เป็นที่ติเตียนของประชาชนในลักษณะโลกวัชชะ เช่น การแสดงพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดของตน การแสดงกิริยาวาจาไม่สมสมณสารูป การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ไม่เหมาะสม การใช้อุปกรณ์สื่อสารผิดกาลเทศะ การไปในสถานที่ไม่สมควรแก่บรรพชิต เป็นต้น ให้พระสังฆาธิการกวดขันควบคุมมิให้พระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว ประพฤติตน แสดงออก หรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด

4.พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติตนไม่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และไม่รักษาเชิดชูพระธรรมวินัยให้เป็นวิถีทางประพฤติปฏิบัติของตน ตลอดจนหมู่คณะ ให้พระสังฆาธิการกวดขัน ควบคุม พระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว มิให้ประพฤติตนหรือกระทำการเช่นว่านั้นโดยเด็ดขาด และหากเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย ให้ดำเนินกระบวนการลงโทษตามพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์โดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ พระสังฆาธิการรูปใดไม่ดำเนินการ หรือย่อหย่อนในการสำรวจ ตรวจสอบ กวดขัน ควบคุมพฤติกรรมหรือลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครอง และไม่จัดการตามกฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ หรือประกาศมหาเถรสมาคม กับพระภิกษุสามเณรผู้มีพฤติกรรมข้างต้น ย่อมต้องได้รับโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ หากพระสังฆาธิการได้พยายามดำเนินการตามพระธรรมวินัย อำนาจหน้าที่แล้ว ยังไม่สามารถบังคับการให้เป็นไปได้ตามนั้น ให้เร่งประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอการสนับสนุนและอารักขาจากทางราชการ

ขณะที่พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการ มส.ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังสือเรื่อง ห้ามติดแผ่นป้ายโฆษณาพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล และเทวรูปในที่ต่างๆ ลงวันที่ 26 ก.ย. แจ้งไปยังเจ้าคณะเขตทุกเขตในกรุงเทพฯ ระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลใช้ความเชื่อทางด้านศาสนามาแสวงหาผลประโยชน์ ได้โฆษณาสรรพคุณพระบูชา และวัตถุมงคล โดยอ้างแหล่งที่มาของวัสดุที่นำมา สร้างพระบูชา วัตถุมงคล และเทวรูปต่างๆ ตลอดถึงอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงหลักธรรมคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา ทำให้ประชาชนเกิดความหลงผิด

ในหนังสือมีข้อความอีกว่า เจ้าคณะกรุงเทพฯ จึงขอให้เจ้าคณะเขตทุกเขต ได้สอดส่องดูแลการโฆษณา การจัดสร้างพระบูชา วัตถุมงคล และเทวรูปทางสื่อต่างๆอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการเผยแผ่พุทธธรรมอย่างถูกต้องชัดเจน และเนื่องจากพระอุโบสถหรืออุโบสถ เป็นสถานที่ที่พระภิกษุใช้ทำสังฆกรรมตามพระวินัย จึงขอให้เจ้าคณะเขตทุกเขต ได้แจ้งทุกวัดในเขตปกครอง ไม่ควรจำหน่ายพระบูชา วัตถุมงคล และเทวรูปต่างๆภายในและบริเวณพระอุโบสถหรืออุโบสถ

เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ที่วัดเสมียนนารี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังมีคำสั่งจากเจ้าคณะ กทม. ไม่ให้ติดป้ายโฆษณาพระเครื่องหรือวัตถุมงคล จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการนำป้ายมาปิดประกาศเกี่ยวกับการโฆษณาพระเครื่องวัตถุมงคล แต่ยังพบว่ามีการวางจำหน่ายวัตถุมงคลบางชนิดอยู่บริเวณทางเดินระหว่างศาลา ส่วนบรรยากาศภายในวัดดังกล่าวอยู่ในช่วงทำวัตรเย็นและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่