แห่รับบัตรคนจนอย่างคึกคักทั่วประเทศทั้งที่ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. กรุงไทย และสำนักงานคลังจังหวัด หลายคนเดินทางมารอคิวแต่เช้า ต่างดีใจที่ได้รับบัตรเพื่อนำไปรูดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เผยมูลค่าของบัตรสำหรับซื้อของจำเป็น 300 บาท กับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางรถเมล์ รถไฟฟ้า รถ บขส.และรถไฟ รวม 1,500 บาท
ผู้มีรายได้น้อยแห่รับบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างคึกคักทั่วประเทศ โดยเมื่อสายวันที่ 21 ก.ย. ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาเทิง จ.เชียงราย ชาวบ้านพื้นที่ ต.เวียง ประมาณพันคนเดินทางมารอรับบัตรที่หน้าธนาคารตั้งแต่เช้าเช่นกัน ส่วนที่สำนักงานคลังจังหวัดพะเยา บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักมีประชาชนทยอยเดินทางมารอรับบัตรตั้งแต่เช้าโดยมีนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ ผวจ.พะเยาเป็นประธานมอบบัตร สอบถามนายวิทยา นามแก้ว อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับบัตรสวัสดิการในวันนี้จะนำบัตรไปรูดซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตถึงแม้ว่าวงเงินที่ได้อาจน้อยไปแต่ถือว่าเป็นการช่วยเรื่องค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย ได้พอสมควร
...
ด้านสำนักงานคลังจังหวัดพิษณุโลก บริเวณชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ ผู้มีสิทธิรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทยอยมารับบัตรอย่างต่อเนื่อง สอบถามนางพรีปวีณ์ สนใจ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 78/127 ถนนศรีธรรมไตรปิฎก ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ผู้ได้รับบัตรคิวหมายเลข 1 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ รัฐบาลอุดหนุนคนรากหญ้า ดีใจที่สุด เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์มากทำให้คนรากหญ้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วน จ.สุโขทัย บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาสวรรคโลก ตั้งแต่เช้ามีชาวบ้านที่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมารอบรับบัตรจำนวนมาก
ที่วัดผาแก้วใหม่ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานีมีประชาชนมารอรับบัตรคนจนหลายร้อยคนโดยนายเจียมศักดิ์ คันศร ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขาอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เฉพาะ ต.กุดลาด มีผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 583 ราย ซึ่งบัตรนี้เป็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนที่จำเป็นในการดำรงชีพ แก่ผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยเริ่มใช้บัตรสวัสดิการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้
และที่ จ.ยโสธรมีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนที่สำนักงานคลังจังหวัดยโสธรโดยมี น.ส.เพ็ญศรี เจริญสุทธิพันธ์ รอง ผวจ.ยโสธร เป็นคนมอบบัตรให้กับผู้มีสิทธิรายแรก ขณะที่นางติ๋ว บางณรงค์ อายุ 61 ปี อาชีพค้าขายซึ่งเป็นผู้รับบัตรรายแรกของยโสธร กล่าวว่าดีใจมากที่ได้รับบัตรแต่ยังไม่ทราบว่าสามารถใช้ได้ที่ร้านค้าไหนบ้างและสามารถซื้ออะไรได้บ้าง
ขณะที่ จ.อุดรธานี นายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานในพิธีมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ประชาชนโดยมีนางสุภาวดี สิทธิมาลัยรัตน์ คลังจังหวัดอุดรธานี ผจก.ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี สำหรับ จ.ตราด บรรยากาศสุดคึกคักมีประชาชนผู้ที่ลงทะเบียนไว้ ต่างพากันเดินทางมารับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และที่สำนักงานคลังจังหวัดตราด ศาลากลางจังหวัดตราด ซึ่งมีประชาชนต่างพากันมาคอยรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยกันตั้งแต่เช้า
สำหรับ จ.นครศรีธรรมราช ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาทุ่งสง นายทศพร จันทร์ประวัติ นอภ.ทุ่งสง เป็นประธานในพิธีมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีรายได้น้อยในเขต อ.ทุ่งสง ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส.สาขาทุ่งสงจำนวน 4,628 คน ส่วนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา มีประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ทยอยเดินทางไปรับบัตรอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้า
ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.เมืองนราธิวาส นายสิทธิชัย ศักดา ผวจ. นราธิวาส น.ส.นิลาส หะยีสะแมะ คลังจังหวัดนราธิวาสร่วมกันมอบบัตรสวัสดิการที่มีรายได้น้อยให้กับประชาชนที่มาลงทะเบียนในจังหวัดนราธิวาส โดยบัตรนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพซึ่งสินค้าที่จำเป็น ขณะที่ประชาชนต่างดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการนี้เพราะสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ จ.สุพรรณบุรี ที่ธนาคารออมสิน สาขาสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาตรวจสอบสิทธิและรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจนเต็มธนาคาร
...
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบ่งเป็น 2 หมวดคือหมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ประกอบด้วย 1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อคนต่อปีจะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วน ผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน และหมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย 1.วงเงินค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2.วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3.วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้รัฐบาลจะเติมเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน ใช้หมดหรือไม่หมดไม่สามารถทบยอดไปใช้เดือนต่อไปได้