ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มตัวสิ่งที่ตามมานั่นคือ สังคมจะอุดมไปด้วยผู้เจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆ เนื่องจากผู้สูงวัยทั้งหญิงและชายจะมีอนุมูลอิสระตกค้างสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมาก ก่อให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคอื่นๆตามมา

การบริโภคผลไม้เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยลดการสะสมของอนุมูลอิสระได้ แต่ปรากฏว่าการเคี้ยวและกลืนผลไม้ของผู้สูงอายุบางรายมักมีปัญหาติดคอ ทำให้อาเจียนได้ง่าย และถ้านำไปปั่นเป็นน้ำพร้อมดื่ม บางรายอาจเกิดการสำลักได้ จึงจำเป็นต้องคิดหาวิธีผลิตอาหารที่เหมาะกับผู้สูงวัยกลุ่มนี้

น.ส.อลิษา สุนทรวัฒน์ และน.ส.ชวนพิศ จิระพงษ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และทีมวิจัยจึงได้ศึกษาคุณค่าผลไม้ไทย เพื่อนำมาผลิตเป็นเจลลี่ผลไม้เพื่อผู้สูงอายุ โดยมีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ให้การสนับสนุน

การศึกษาพบว่า ในบรรดาผลไม้ไทย มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นอันดับ 1 เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ มีเควอซิทิน (Quercetin) เบต้าแคโรทีน (Beta Carotine) กรดโฟลิก และแอสตรากาลิน (astragalin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง รองลงมาคือ มัลเบอร์รี่ (ลูกหม่อน) มีสาร Anthocyanins ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ต่อ ต้านอาการขาดเลือดในสมอง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง

...

และจากการนำผลไม้ทั้ง 2 ชนิดมาสกัดสารต้านอนุมูลอิสระ แล้วนำไปทดสอบการทำงาน กับลำไส้จำลอง พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระสามารถดูดซึมเข้าลำไส้ได้ในปริมาณที่น้อยมาก ส่วนใหญ่ตกค้างในบริเวณกระเพาะอาหาร

เพื่อให้ผู้บริโภคสูงวัยได้รับสารต้านมะเร็งอย่างเต็มที่ ทีมวิจัยจึงต้องคิดหาวิธีใหม่ ด้วยการนำเจลลี่มาเคลือบสารต้านอนุมูลอิสระไม่ให้ไปตกค้างในกระเพาะอาหาร แต่ให้สามารถหลุดรอดไปแตกตัวได้บริเวณลำไส้ เพื่อสารต้านมะเร็งจะได้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เต็มที่ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดในไทยทำเช่นนี้มาก่อน

และผลงานดังกล่าวนี้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จะนำมาเปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2560 ระหว่าง 23-27 ส.ค.นี้ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์.