นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อสายโทรศัพท์สนทนากับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เมื่อวันที่ 3 ก.ค. หารือประเด็นความมั่นคงเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งเรื่องความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ซึ่งเป็นการสนทนาก่อนที่จะพบปะกันในการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ที่เยอรมนี ในช่วงสุดสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายทรัมป์และนายสีได้ยืนยันร่วมกันที่จะลดความตึงเครียดในประเด็นนิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี พร้อมแสดงเจตจำนงที่จะสร้างสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า พร้อมตอบรับจีนว่าจะดำเนินรอยตามนโยบายจีนหนึ่งเดียว หรือจุดยืนที่จีนมีต่อไต้หวัน ขณะที่สื่อจีนระบุว่านายสีได้แสดงความหวังว่าสหรัฐฯจะดำเนินความสัมพันธ์กับไต้หวันตามนโยบายจีนหนึ่งเดียว และจะจับตาต่อไปอย่างใกล้ชิด กระนั้นความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ณ เพลานี้ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านลบหลายประการ แต่มิได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

การสนทนาระหว่างผู้นำชาติมหาอำนาจครั้งนี้ ยังมีขึ้นหลังวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้ออกมาตรการคว่ำบาตรธนาคารจีนบางแห่งและบุคคลที่สหรัฐฯอ้างว่าพัวพันกับเกาหลีเหนือ ซึ่งสหรัฐฯยังอนุมัติการขายอาวุธให้กับไต้หวันมูลค่า 49,000 ล้านบาท และต่อมาในวันที่ 2 ก.ค. เรือพิฆาตยูเอสเอส สเตเธม ยังออกปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่ทะเลจีนใต้ ไม่ไกลจากเกาะพาราเซล พื้นที่พิพาทระหว่างจีน เวียดนาม ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในการครอบครอง สร้างความขุ่นเคืองแก่รัฐบาลจีนที่ส่งเรือรบและเครื่องรบเข้าพื้นที่ พร้อมประกาศเตือนให้รัฐบาลสหรัฐฯยุติปฏิบัติการดังกล่าวทันที

...

วันเดียวกัน นายทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งผู้นำทั้งสองได้ประกาศว่าจะยึดมั่นต่อความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งนายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังเปิดเผยด้วยว่า สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะหารือแบบไตรภาคีนอกรอบการประชุมจี 20 ที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าจะหารือเรื่องใด อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว ต่างประเทศรายงานว่า ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้หารือกันมาตลอดถึงความร่วมมือในการปรามรัฐบาลเกาหลีเหนือ และการเรียกร้องให้รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการต่อเกาหลีเหนือมากกว่านี้ นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังโทรศัพท์หารือกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ถึงสถานการณ์ชาติอาหรับรุมคว่ำบาตรกาตาร์ด้วย.