วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียระบุว่า นานาชาติใกล้มีข้อตกลงเรื่องการตั้งเขตปลอดภัยในซีเรียแล้ว โดยทั้งสหรัฐฯ, ตุรกี, อิหร่าน และซีเรีย ต่างมีท่าทีสนับสนุน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในวันพุธที่ 3 พ.ค. ว่า รัสเซีย, สหรัฐฯ, ตุรกี, อิหร่าน และซีเรีย ใกล้บรรลุข้อตกลงจัดตั้ง ‘เขตปลอดภัย’ หรือ ‘เซฟ โซน’ ในประเทศซีเรียแล้ว และนำไปสู้การตั้งเขตห้ามบิน เพื่อทำให้เกิดมาตรการหยุดที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

ที่ผ่านมา รัสเซียเสนอให้มีการตั้งเขตปลอดภัยขึ้นในดินแดนที่ฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลครอบครอง ในจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ, บางส่วนของจังหวัดฮอมส์ในภาคกลาง และที่ดินแดนฝ่ายกบฏในเมืองโกตา ใกล้กรุงดามัสกัส ทางตะวันออกด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติความรุนแรง, ให้ผู้พลัดถิ่นเดินทางกลับบ้าน และให้หน่วยงานต่างๆ ส่งสิ่งของช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ เซฟโซนจะถูกล้อมด้วยจุดตรวจที่ดูแลโดยตัวแทนจากกลุ่มกบฏและกองทัพรัฐบาล ส่วนกองกำลังต่างชาติก็สามารถส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ได้ด้วย

“หนึ่งในวิธีที่จะทำให้การหยุดยิงสามารถคงอยู่ได้อย่างยั่งยืนคือ การสร้างเซฟโซนหรือสร้างเขตลดความรุนแรง” ประธานาธิบดีปูตินกล่าวที่รีสอร์ตในเมืองโซชิ หลังจากพบปะหารือกับประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน แห่งตุรกี “นายทรัมป์กับผมหารือเรื่องนี้แล้วในการคุยโทรศัพท์เพื่อวานนี้ และเท่าที่ผมเข้าใจ รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนแนวคิดเหล่านี้”

“รัสเซียได้หารือเบื้องต้นกับซีเรียและอิหร่านแล้ว พวกเราเห็นด้วยว่ากลไกนี้ต้องถูกสร้างขึ้น เพื่อรับประกันการยุติเหตุนองเลือดและสร้างเงื่อนไขเพื่อเริ่มการเจรจาทางการเมือง” ปูตินระบุด้วยว่า เครื่องบินต้องไม่เข้ามาในเขตลดความรุนแรงนี้ เพื่อให้ไม่มีกิจกรรมทางทหารในเขตเหล่านี้ และหลังจากนี้จะมีการหารือกันต่อว่า จะบริหารเขตปลอดภัยนี้อย่างไร

...

ทั้งนี้ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการตั้งเซฟโซนจะเกิดขึ้นในการเจรจาว่าด้วยซีเรีย ที่กำลังเกิดขึ้นในกรุงกัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ณ ขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกบฏซีเรียระบุว่า พวกเขายกเลิกการเข้าร่วมเจรจา เพราะยังมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง