เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศมาเลเซียสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม ได้ 6 ราย จาก 5 รัฐทั่วประเทศในช่วงไม่กี่เดินที่ผ่านมา โดยทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย...

ตามรายงานของสำนักข่าว นิว สเตรทส์ ไทม์ส ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 พ.ค. หน่วยพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจมาเลเซียเปิดเผยว่า พวกเขาสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ได้ 6 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 2 คน ทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย ถูกจับกุมระหว่างวันที่ 24 มี.ค. ถึง 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ในรัฐกลันตัน, สลังงอร์, มะละกา, ยะโฮร์ และรัฐปีนัง

ตัน ศรี ดาโต๊ะ คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยชาย 2 คน อายุ 24 ปี กับ 41 ปี ถูกจับกุมตัวที่รัฐกลันตัน เมื่อ 24-25 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยพวกเขามีส่วนร่วมในการลักลอบขนอาวุธมาจากภาคใต้ของประเทศไทย เพื่อให้กลุ่มไอซิสในมาเลเซียเอาไปใช้

ต่อมาในวันที่ 4 เม.ย. ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยหญิง ซึ่งเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์วัย 26 ปี ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ โดยเธอเดินทางไปประเทศตุรกีเมื่อเดือนส.ค. ปีก่อน และวางแผนจะเดินทางไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอซิสในซีเรีย แต่เธอถูกทางการตุรกีจับกุมตัวได้เมื่อ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่เธอกำลังรอคำสั่งจากนาย มูฮัมหมัด วานดี โมฮาเหม็ด เจดี ผู้ก่อการร้ายชาวมาเลเซียเพื่อข้ามไปซีเรีน

...

หลังจากนั้นในวันที่ 20 เม.ย. ตำรวจจับกุมตัวชายวัย 41 ปีกับหญิงวัย 32 ปี ได้ที่รัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์ โดยฝ่ายชายเคยไปร่วมก่อการกับไอซิสในซีเรีย ขณะที่ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้ช่วยวิศวกร ให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิสผ่านแอพพลิเคชัน กูเกิล พลัส (Google+)

และในวันที่ 25 เม.ย. ตำรวจจับกุมตัวชายว่างงานวัย 41 ปี ได้ที่รัฐปีนัง โดยเขาโพสต์ข้อความสนับสนุนกลุ่มไอซิสผ่านเฟซบุ๊กถึง 15 บัญชีมาตั้งแต่ปี 2014 และวางแผนจะโจมตีมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในรัฐปีนังด้วย

นอกจากนี้ ตำรวจมาเลเซียยังกำลังพยายามแกะรายชายคนหนึ่งซึ่งถูกระบุชื่อว่า มูฮัมหมัด มูซาฟฟา อารีฟ จูไนดี อายุ 27 ปี ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกับผู้ต้องสงสัยชาย 2 คนที่ถูกจับในรัฐกลันตัน โดยผบ.ตร.คาลิดระบุว่า นายมูซาฟฟาหนีการตามจับของตำรวจในวันที่ 22 มี.ค. และหลบหนีเขาสู้ภาคใต้ของประเทศไทย พร้อมอาวุธปืนพก 1 กระบอก และปืนไรเฟิล เอ็ม4 จำนวน 2 กระบอก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยยืนยันว่า ยังไม่มีการติดต่อขอประสานงานเรื่องชายคนนี้จากมาเลเซียแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง