พ.ศ. 2551 แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถยนต์เก็บพลังงานไฟฟ้าได้เพียง 50 กิโลวัตต์/ชั่วโมง แถมยังมีราคาแพงมาก
พ.ศ.2560 แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 100 หน่วยไฟฟ้า ซึ่งมีความจุมากกว่าการใช้ไฟฟ้าในบ้านปกติในแต่ละวันถึง 5 เท่า
พ.ศ.2563 ญี่ปุ่นจะผลิตแบตเตอรี่ยุคใหม่ที่มีความจุไม่ต่ำกว่า 300 หน่วยไฟฟ้า รถยนต์คันเดียวต่อไฟฟ้าไปให้ใช้กันได้ทั้งหมู่บ้าน วันนั้นนั่นแหละครับ หายนะเกิด โลกจะเปลี่ยนไปมโหฬาร รถยนต์ไฟฟ้าจะวิ่งกันดื่นดาษกลาดเกลื่อน รถยนต์ใช้น้ำมัน 1 คันมีอุปกรณ์มากกว่า 2 พันชิ้น รถยนต์ไฟฟ้า 1 คันมีอุปกรณ์ 100 ชิ้น ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จะแย่ ไทยที่ประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของโลกจะได้รับผลกระทบ
ทุกวันนี้ มนุษย์ใช้ไฟฟ้า ความร้อน และน้ำมัน ในอนาคตทุกอย่างจะต้องถูกแปลงเป็นไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เดิมเราใช้ก๊าซหุงหาอาหาร ต่อไปจะใช้ไฟฟ้า เดิมใช้น้ำมันและก๊าซขับเคลื่อนรถยนต์ ต่อไปก็ต้องใช้ไฟฟ้า ก่อนจะนำฟอสซิลอย่างถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ มาใช้ มนุษย์ต้องแปลงเป็นไฟฟ้าซะก่อน
การต้องไปขนถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิด เสียทั้งเวลา เงินทอง แถมยังทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ส่วนลม แสงแดด และน้ำ เป็นพลังงานต้นกำเนิดที่มาหาเราเองตามธรรมชาติ ผลิตไฟฟ้าได้แบบไม่ต้องยุ่งยาก มีอุปกรณ์ก็ผลิตไฟฟ้าได้เลย
วันนี้นโยบายระดับประเทศ จะต้องให้ความสนใจใน World Smart Grid Transmission Line Infrastructure Connectivity หรือ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานในระบบสายส่งไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลก ส่วนผู้คนก็ต้องให้ความสนใจใน smart meter หรือมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ทุกวันนี้ เราสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้านเรือนได้ แต่ถ้าจะขายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ ทุกบ้านต้องมีมิเตอร์อัจฉริยะที่บอกรายละเอียดความต้องการใช้ไฟฟ้า สามารถสื่อสารได้จนถึงระดับอุปกรณ์ ทำให้ควบคุมการซื้อ-ขายและการใช้ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์
...
ถ้าโลกมี smart grid และ smart meter อย่างทั่วถึงเมื่อใด วันนั้นการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซ น้ำ ฯลฯ แทบจะไม่มี สภาวะ ZNE หรือ Zero Net Energy ที่ผมเรียนไปเมื่อวานจะเข้ามาอยู่ในวิถีมนุษย์ ทุกบ้านและสถานที่ทำงานจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้เท่ากับที่บริโภค วันนั้น มนุษย์จะไม่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าอีก
มนุษย์ทุกคนจะมี IP สำหรับการใช้ไฟฟ้าของตน ผมผลิตไฟฟ้าที่บ้านที่นครเทียนจินได้วันละ 100 หน่วยไฟฟ้า IP ของการใช้ไฟฟ้าของผมคือ T2317M เมื่อผมไปออสเตรเลีย ผมก็ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ที่บ้านที่เทียนจินด้วยการใช้ IP ที่ T2317M
เดิมมือถือเครื่องใหญ่เพราะแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ แต่วันนี้มือถือเครื่องเล็ก ที่เล็กเพราะแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้การสื่อสารของมนุษย์เปลี่ยนไปจาก 20 ปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
นอกจากเทสลาแล้ว วันนี้ ยังมีการวิจัยเรื่อง smart grid ในหลายประเทศ และพบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สภาวะ ZNE เกิดขึ้นแล้วในหลายชุมชน และกำลังแผ่ขยายกระจายไปถึงระดับเมืองเล็ก ผมเชื่อว่าอีกไม่กี่ปีก็จะเข้าสู่เมืองใหญ่ ระบาดไปทุกประเทศ และทั้งโลก ประเทศไหนหรือแม้แต่หน่วยงานใดปรับตัวไม่ได้ ก็จะต้องสูญพันธุ์
ขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดถึง smart grid และ ZNE แต่ก็ยังมีผู้คนในหลายประเทศกำลังเถียงกันเรื่องการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำและถ่านหิน นี่ยังดีนะครับ ที่ท่านเหล่านั้นไม่ได้เถียงกันเรื่องการใช้ขี้ไต้และตะเกียงเจ้าพายุ
ทุกฝ่ายมีเหตุผลในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประชาชน แต่ก็ควรจะมีวิสัยทัศน์ที่คำนึงถึงเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไว ถ้ารัฐบาลไทยเมื่อสิบปีที่แล้วทุ่มทุนสร้างตู้โทรศัพท์สาธารณะทั่วประเทศ อะไรจะเกิดขึ้นในวันนี้ครับ ประเทศของเราก็คงจะเต็มไปด้วยตู้ร้าง เพราะทุกคนหันไปใช้มือถือกันหมดแล้ว
ฉันใดก็ฉันเพล เอ๊ย ฉันนั้น ผมเชื่อว่า อีกไม่กี่ปีสภาวะ ZNE จะคลุมไปทั้งโลก เมื่อวันนั้นมาถึง โรงไฟฟ้าจะถูกทิ้งร้างไม่ต่างอะไรกับตู้โทรศัพท์สาธารณะดอกครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com