ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาผันผวน ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ทรัมป์มีโอกาสจะชนะ หลัง FBI ออกมาประกาศข่าวเซอร์ไพรส์ จะเข้ามาตรวจสอบกรณีอีเมลส่วนตัวฮิลลารี คลินตัน ส่งผลหุ้นในยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง และค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ตกทันที
เมื่อ 1 พ.ย.59 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดความไม่แน่นอนขึ้นเสียแล้วว่า นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันใครจะเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เนื่องจากคะแนนนิยมของทรัมป์ตีตื้นขึ้นมาช่วงโค้งสุดท้าย หลังสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ออกมาประกาศข่าวที่สร้างความประหลาดใจเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า จะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีอีเมลส่วนตัวของนางฮิลลารี ขณะเหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้งนั้น ส่งผลให้ดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ปรับตัวลดลง ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา
ข่าวแจ้งว่า ตลาดหุ้น CAC 40 ของปารีส ปรับตัวลดลง 0.9%, ตลาดหุ้น FTSE ของลอนดอน ปรับลดลง 0.6%, ตลาดหุ้น DAX30 ในแฟรงก์เฟิร์ต ลดลง 0.3% และตลาดหุ้นในกรุงมาดริด, โรม และอัมสเตอร์ดัม ปรับลดลง ส่วนตลาดหุ้นในมิลาน ลดลงไป 1.15% ในขณะที่ ดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ ในนิวยอร์ก ปรับลด 0.1% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
...
แจสเปอร์ ลอว์เลอร์ นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ CMC ชี้ว่า พลันที่มีท่าทีว่าทรัมป์อาจจะชนะเลือกตั้งส่งผลให้ตลาดหุ้นกำลังเกิดความวิตกเมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พร้อมกับชี้ว่า ตลาดหุ้นในยุโรปกำลังรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ค่าเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญในตลาดเงิน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยค่าเงินดอลลาร์ตกลงไปประมาณ 0.9% ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 วัน เมื่อเทียบกับเงินยูโร อยู่ที่ 1 ยูโร เท่ากับ 1.0991 ดอลลาร์ฯ