หลังจากที่เจอคดีของน้อง Femke Van den Drissche นักปั่นน่องเหล็กชาวเบลเยียม เจ้าของแชมป์โลก Cyclocross ระดับเยาวชน ที่เธอตัดสินใจ “ไม่เถียง-ไม่สู้” แล้วถอนตัวจากวงการ สาเหตุมาจากโดนข้อกล่าวหาว่า “โด๊ป” มอเตอร์ทุ่นแรงในจักรยานที่ใช้ในการแข่งขัน

แต่ก็ “ไม่รับ” ว่าเป็นจริงหรือไม่ แล้วโบ้ยว่าเป็นคันที่ทางทีมจัดสรรมาให้ขี่ ไม่ใช่ของหนูนะค่าาา ซึ่งกลายเป็นประเด็นฉาวโฉ่ที่เม้าท์กันหลายชาติหลายภาษาอย่างกว้างขวางในวงการ

แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ทาง กรรมการจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ก็เตรียมแผนทดสอบจักรยานที่ซุกมอเตอร์หลายพันคัน ทั้งที่นำไปใช้การแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ กับ ริโอ เด จาเนโร โอลิมปิกส์ “และตั้งแต่เดือนมกราฯ มานี้ มีรถที่ถูกสแกนแล้วราวๆ 2,500คัน ซึ่งหากรวมตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าน่าจะถึง 12,000คัน” ...มร.มาร์ก บาร์ฟิล์ด ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ UCI กล่าวไว้

โดยอุปกรณ์เครื่องมือตรวจสอบดังกล่าว ก็เป็นดั่งภาพประกอบ คือเป็นแท็บเล็ตที่พัฒนาตัวซอฟต์แวร์เพื่อสแกนจักรยาน ตรวจหามอเตอร์ แถบแม่เหล็กและแบตเตอรี่ทั้งในตัวโครง วงล้อและตามขอบล้อ ซึ่งจะทราบผลภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที

ก็เพราะจากจุดแรกที่พบผิดสังเกตนั่นแหละ ทั้งที่ข่าวลือเรื่องโกงการปั่นมีวนเวียนเข้าหูมานานหลายปี แต่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่า ใช่หรือมั่ว จริงหรือแค่อิจฉาความเก่งกล้าสามารถของอีกฝ่าย กระทั่งสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งของฝรั่งเศสถ่ายทอดหลักฐานออกจอเป็นภาพความร้อนของมอเตอร์ที่ฝังอยู่ในจักรยานคันหนึ่งให้เห็นแบบเต็มๆ

ยิ่งไปกว่านั้น มร.ไบรอัน คุกสัน ประธาน UCI ออกมายอมรับว่า มีกลุ่มนักข่าวแดนน้ำหอมไปเจอกับวิศวกรคนหนึ่งที่ประเทศฮังการี ซึ่งคุ้นเคยกับจักรยาน “โด๊ป” มอเตอร์เป็นอย่างดี

...

“เรื่องอย่างนี้ ผมถือว่าซีเรียสมากกับวงการแข่งขันจักรยาน และเราก็กำลังทำทุกอย่าง และเก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข่าวให้มาก รวมไปถึงพึ่งพาข่าวกรองจนถึงการตรวจเช็กจักรยาน เรียกได้ว่าทำวิจัยค้นคว้าทุกทิศทางเพื่อรักษาชื่อเสียงของวงการ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้”

แต่ส่งสัญญาณคนขี้โกงทั้งหลายว่า...อย่าหวัง “แหกตา” กรรมการอีกละกัน!!!

ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ