รมว.เกษตรออสเตรเลีย ออกโรงโต้องค์การอนามัยโลก เตือนการกินเนื้อแปรรูป ทั้ง ไส้กรอก แฮม ฮอทด็อก เสี่ยงก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ บอกเป็นเรื่อง‘น่าขำ’ที่อนามัยโลกนำ ไส้กรอก มาเปรียบว่าอันตรายเหมือนกับการสูบบุหรี่
เมื่อ 27 ต.ค.สื่อต่างประเทศรายงาน รัฐบาลออสเตรเลีย ออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง รายงานองค์การอนามัยโลก (WHO) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุการรับประทานเนื้อแดงที่ผ่านกระบวนการแปรรูป อาทิ ไส้กรอก แฮม เบคอน มีความเสี่ยงที่จะให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เหมือนกับการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าว่า เป็นเรื่องที่ ‘น่าหัวเราะ’
เว็บไซต์ของ นสพ.สเตรทไทม์ส แจ้งว่า นายบาร์นาบีย์ จอยซ์ รมว.เกษตรของออสเตรเลียกล่าวกับนักข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศออสเตรเลีย ในฐานะที่ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีการบริโภคเนื้อแดงรายใหญ่ที่สุดในโลก ว่า องค์การอนามัยโลกไม่ควรนำเนื้อแดงที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาเปรียบเทียบกับสิ่งเสพติดอย่าง บุหรี่ หรือเหล้าว่า เป็นวัตถุเสี่ยงก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะการเปรียบอันตราย ระหว่าง ไส้กรอก กับ บุหรี่ นั้น เป็นเรื่องที่น่าขบขัน
...
รมว.เกษตรออสเตรเลีย ยังกล่าวด้วยว่า เขาไม่คิดว่า ประชาชนควรตื่นตระหนกตกใจมากเกินไป ถ้าหากคุณกินไส้กรอกไปแล้ว จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากเนื้อแดง อย่าง เนื้อวัว และเนื้อแกะ เป็นแหล่งสารอาหาร ที่สำคัญตามธรรมชาติที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ทั้ง ธาตุเหล็ก, สังกะสี, วิตะมิน บี 12 และโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพต่อร่างกายและการทำงานของสมอง
ทั้งนี้ สำนักวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ ขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยรายงานการวิจัยว่า จากการศึกษาพฤติกรรมการกินของคน 800 คนทั่วโลก พบว่าการบริโภค เนื้อแดงแปรรูป อย่างเช่น ไส้กรอก แฮม ฮอทด็อก เพียงแค่ 50 กรัมต่อวัน เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพิ่มขึ้น 18% โดยจัดให้เนื้อแดงแปรรูปเป็นวัตถุเสี่ยงก่อให้เกิดมะเร็ง กลุ่ม 1 ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ แร่ใยหิน เหล้า และบุหรี่
อย่างไรก็ตาม แม้ทางการออสเตรเลียจะออกมาตอบโต้ว่าการเปรียบเทียบอันตรายจาการรับประทานเนื้อแปรรูปว่าเหมือนกับการสุบบุหรี่ เพราะเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งเป็นเรื่องน่าขบขัน แต่ปรากฏว่า ผลการศึกษาวิจัยของกองทุนวิจัยโรคมะเร็งของโลก พบว่า มีอัตราชาวออสเตรเลีย ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ อยู่ที่อันดับ 8 ของโลก.