กลุ่มผู้ประท้วงในตุรกีบุกทำลายทรัพย์สิน สถานกงสุลไทย ณ นครอิสตันบูล ช่วงกลางดึก ไม่พอใจทางการไทยส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์กลับจีน ขณะที่สถานทูตไทยในตุรกีระบุ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ พร้อมเตือนคนไทยในตุรกีระมัดระวังตัวมากขึ้น 

นสพ.ในตุรกี ‘เดลี่ ซาบาห์ ตุรกี’ ออนไลน์ รายงาน เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงชาวตุรกีบุกก่อเหตุรุนแรง บุกทำลายทรัพย์สินที่สถานกงสุลไทยกิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล ซึ่งตั้งอยู่เขต Sisli เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันพุธที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจการตัดสินใจของทางการไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีน

เดลี่ ซาบาห์ ตุรกี แจ้งว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้มาชุมนุมที่หน้าสถานกงสุลไทยในนครอิสตันบูล พร้อมกับออกแถลงการณ์แก่สื่อมวลชนแจ้งสาเหตุที่พวกตนมาชุมนุมประท้วงเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพียงแต่หลังจากนั้น บรรยากาศของการชุมนุมได้เปลี่ยนเป็นเหตุรุนแรง เมื่อฝูงชนได้บุกทุบทำลายกระจกหน้าต่างของสถานกงสุล และดึงธงชาติไทยลงมาจากยอดเสา

หลังเกิดเหตุรุนแรง ทางการตุรกีได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงมายังสถานกงสุลไทยทันทีและขับไล่ฝูงชนผู้ชุมนุมประท้วงที่บริเวณสถานกงสุลไทยให้สลายตัวไป

...

เดลี่ ซาบาห์ ตุรกี ระบุว่า ชาวมุสลิมเผ่าอุยกูร์ ซึ่งมีประชากรราว 10 ล้านคน หรือคิดเป็น 45% ของจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองซินเจียง-อุยกูร์ ในประเทศจีนนั้น ได้กล่าวหาทางการจีนดำเนินนโยบายปราบปรามชาวมุสลิมอุยกูร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนา การค้าและวัฒนธรรม จึงทำให้มีชาวมุสลิมอุยกูร์บางส่วนอพยพไปอยู่ประเทศอื่นเพื่อหนีการกดขี่จากทางการจีน โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลตุรกีได้แสดงท่าทีพร้อมจะรับผู้อพยพชาวมุสลิมอุยกูร์ และได้แจ้งอย่างเป็นทางการมาถึงรัฐบาลไทยให้ส่งผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมอุยกูร์ที่หลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย ไปยังตุรกี และไม่ควรส่งกลับไปจีน ซึ่งพวกเขาอาจจะเผชิญกับเหตุรุนแรงถึงเสียชีวิตหากกลับไปในจีน

ขณะเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุรุนแรงที่สถานกงสุลไทย ณ นครอิสตันบูลแล้ว ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้เตือนคนไทยให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น และติดตามข่าวสารจาก สถานเอกอัครราชทูตไทย อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ คนไทยในตุรกีมีจำนวนประมาณ 1,300 คน นอกจากนั้น ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังกา ยังได้ประกาศปิดฝ่ายกงสุลในวันที่ 9 ก.ค. 2558 

ที่มา:dailysabah