วิกฤติการเงินกรีซเครียดหนัก...นายกฯ อเล็กซิส ซีปราส จำต้องออกมาประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน พร้อมกับกำหนดให้ประชาชนสามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แค่เพียงวันละ 60 ยูโรเท่านั้น ขณะที่ธนาคารทั่วประเทศปิดทำการนานเป็นสัปดาห์
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าวิกฤติการเงินในประเทศกรีซที่กำลังตึงเครียดอย่างหนัก หลังธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ประกาศไม่ขออัดฉีดเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าสู่ระบบการธนาคารของกรีซอีกต่อไปว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 58 ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส แห่งกรีซได้มีแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศ ประกาศธนาคารกลางกรีซได้ออกมาตรการควบคุมเงินทุนในประเทศ และกำหนดให้ประชาชนสามารถถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แค่เพียงวันละ 60 ยูโร (2,264 บาท) ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 30 มิ.ย.) ขณะที่ธนาคารทั่วประเทศกรีซปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์นี้ (29 มิ.ย.) เป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์เต็ม จนถึงวันที่ 7 ก.ค. เพื่อป้องกันผู้คนเกิดความตื่นตระหนกแห่ถอนเงินจนธนาคารล้ม
ข่าวแจ้งว่า นอกจากจะมีการปิดธนาคารทั่วประเทศกรีซแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศกรีซก็ปิดทำการในวันจันทร์นี้เช่นกัน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีซีปราส ซึ่งมีสีหน้าอิดโรยมากจนเหมือนกับ ‘ซอมบี้’ ระหว่างออกแถลงการณ์ทางทีวี ยังได้เรียกร้องให้ชาวกรีซอยู่ในความสงบขณะกำลังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบาก แต่ชาวกรีซจะสามารถเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ได้ในเร็ววัน พร้อมกันนั้นนายกรัฐมนตรีกรีซยังให้คำมั่นสัญญาเงินฝากในธนาคารของประชาชนยังคงปลอดภัยและจะมีการจ่ายเงินเดือนตามปกติ
...
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินในกรีซเข้าสู่ภาวะตึงเครียด เนื่องจากรัฐบาลกรีซยืนกรานไม่รับแผนมาตรการควบคุมทางการเงินของ ‘เจ้าหนี้’ คือ สหภาพยุโรป(อียู), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จนทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อนำมาคลี่คลายวิกฤตการเงิน โดยรัฐบาลกรีซเลือกจะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินผ่านการลงประชามติว่าจะรับแผนมาตรการควบคุมการเงินของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่ในวันที่ 5 ก.ค.ในขณะที่ กรีซมีกำหนดเวลาจะต้องชำระหนี้ 1,600 ล้านยูโร หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท ให้แก่ไอเอ็มเอฟในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ มิเช่นนั้น เสี่ยงที่จะโดนขับพ้นจากกลุ่มยูโร จนเป็นเหตุให้วิกฤติการเงินในกรีซตึงเครียดหนักกว่าเดิม และทำให้มีประชาชนจำนวนมากแห่ไปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มจนเงินเกลี้ยงตู้.
