รมว.คลัง กรีซ เผย ไม่คิดว่าจะได้ข้อสรุปจากการประชุม รมว.คลังกลุ่มยูโรโซน ขณะที่ รมว.คลังของฝรั่งเศส ระบุ ความล้มเหลวของการเจรจากับรัฐบาลกรีซ ในแผนปฏิรูปเพื่อรับเงินกู้ก้อนใหม่ อาจจะทำให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน และกลุ่มอียู...
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียม รายงานอ้างข่าวของสถานีโทรทัศน์ RTL ของเบลเยียมที่อ้างอิงสำนักข่าวเบลก้าว่า นายยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกรีซ ได้แถลงเมื่อวันพุธที่กรุงปารีสว่า เขาไม่คิดว่าจะมีการสรุปหาข้อตกลงได้ในการประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซนหรือกลุ่มยูโรกรุ๊ป (กลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโรจำนวน 19 ประเทศ) ที่ประเทศลักเซมเบิร์กในวันพฤหัสบดีนี้
นายวารูฟากิส กล่าวภายหลังพบปะกับนางแองเจิล กูร์เรีย เลขาธิการองค์การ OECD ที่กรุงปารีส เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะได้ข้อสรุปในที่ประชุมกลุ่มยูโรกรุ๊ป ว่า “ผมไม่เชื่อว่าจะได้ข้อสรุป ขณะนี้ถึงเวลาที่บรรดาผู้นำประเทศที่กำหนดนโยบายร่วมกันจะต้องเป็นผู้หาข้อสรุป” ประเทศกรีซจะต้องชดใช้หนี้ให้กับองค์การการเงินระหว่างประเทศ จำนนวนประมาณ 1.5 พันล้านยูโรสิ้นเดือนนี้ แต่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะใช้หนี้ที่จะครบกำหนดและจ่ายเงินเดือนข้าราชการหรือเงินบำนาญ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกรีซ กล่าวอีกว่า กรีซคาดหวังว่าจะได้รับเงินกู้ก้อนใหม่จำนวน 7.2 พันล้านยูโร ตามกรอบการช่วยเหลือแผนที่สองของไอเอ็มเอฟและยูโรโซน แต่เจ้าหนี้ทั้งสองรายยังคงยืนยันว่า จะโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้ก็ต่อเมื่อกรีซจัดทำโครงการปฏิรูป ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
“รัฐบาลกรีซปัจจุบันได้รับเลือกเข้ามา เพื่อปกป้องประชาชนกรีซด้วยแผนการปฏิรูปที่มุ่งมั่นมาก ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหนี้ของเราจะหยิบยกโครงการการปฏิรูปดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา” นายวารูฟากิส กล่าว
...
นายอเลซิส ทซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้แถลงก่อนหน้านี้ โดยเขาคิดว่ายังอาจจะสามารถปรับข้อเสนอกับบรรดาเจ้าหนี้ได้อีกสองสามประเด็น กล่าวว่า “ถ้ายุโรปยังคงยืนยันในประเด็นเงินบำนาญอีก ก็จะต้องชดใช้กับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น” อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า อาจจะสามารถบรรลุข้อตกลงในที่ประชุมสุดยอดยุโรปครั้งพิเศษ ในวันอาทิตย์นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ หลังจากนั้นจะต้องได้รับการรับรองจากรัฐสภาของหลายประเทศ รวมทั้งเยอรมนี ก่อนวันที่ 30 มิถุนายนนี้
ขณะที่ นายมิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ประเมินเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ความล้มเหลวของการเจรจากับรัฐบาลกรีซ อาจจะทำให้กรีซต้องออกจากยูโรโซนและอาจจะต้องออกจากสหภาพยุโรปด้วย
“นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศกรีซ แต่ก็เป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับเป้าหมายของสหภาพยุโรปด้วยเช่นกัน” รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าว.