รบ.ซาอุฯ จับมือชาติพันธมิตรในตะวันออกกลาง ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ถล่มกลุ่มกบฏฮูธิ ในเยเมน ขณะที่ สื่อเทศรายงาน กองทัพซาอุฯกำลังตระเตรียมกำลังทหารกว่าแสนนายและเครื่องบินรบนับ 100 ลำ บุกภาคพื้นดินด้วย

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความคืบหน้า จากการที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ใช้นโยบายแข็งกร้าว จับมือกับชาติพันธมิตรในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งเครื่องบินรบปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดกวาดล้างกลุ่มกบฏฮูธิ ในเยเมน หลังจากกลุ่มกบฏฮูธิ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลอิหร่าน ได้ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศ และกำลังรุกคืบบุกยึดเมืองเอเดน ซึ่งประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี แห่งเยเมนได้หนีภัยจากกรุงซานา เมืองหลวงที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองกลุ่มกบฏฮูธิ มาหลบอยู่ที่เมืองเอเดน  

ข่าวแจ้งว่า เครื่องบินรบซาอุดีอาระเบียได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงซานา เมืองหลวงเยเมน ซึ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฮูธิ รวมทั้งยังทิ้งระเบิดถล่มฐานทัพอากาศอัล ดูไลมิด้วย เพียงไม่นานหลังจากนายอาเดล อัล-จูเบียร์ เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า กองทัพซาอุดีอาระเบียจะเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มกบฏในเยเมน เพื่อต้องการคุ้มครองรัฐบาลเยเมนที่เข้าบริหารประเทศโดยชอบธรรม

...


รอยเตอร์ ยังรายงานอ้างข่าวจากสถานีโทรทัศน์ อัล-อะราบิยา ทีวี ในอ่าวเปอร์เซียว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียกำลังมีการเตรียมกำลังทหารนับ 1.5 แสนาย และเครื่อบินรบอีก 100 ลำ ร่วมมือกับกองกำลังชาติพันธมิตรในตะวันออกกลางทั้งอียิปต์ จอร์แดน ซูดาน และปากีสถาน บุกภาคพื้นดินปราบปรามกลุ่มกบฏฮูธิในเยเมน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ยังไม่มีการยืนยันจำนวนทหารที่แน่นอน ทว่าอัล อะราบิยา ทีวี เผยด้วยว่า เครื่องบินรบจากต่างชาติที่จะเข้าร่วมกับซาอุดิอาระเบีย ถล่มกลุ่มกบฏฮูธิในเยเมนนั้น มีทั้งจากอียิปต์, โมร็อกโก, จอร์แดน, ซูดาน, คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์ และบาห์เรน

ข่าวแจ้งว่า ความรุนแรงในเยเมนที่ขยายขอบเขตออกไปจนอาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง กำลังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายใหญ่ โดยนับตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียเริ่มต้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนั้น เป็นเหตุให้ราคาน้ำดิบในตลาดโลกร่วงลงมาถึง 6%

เวลานี้ เยเมน กำลังกลายเป็นประเทศด่านหน้าสำคัญของ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ และเป็นปรปักษ์กับรัฐบาลอิหร่านที่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้กล่าวโจมตีรัฐบาลอิหร่าน ที่กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้งทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง จากการที่สนับสนุนกลุ่มกบฏฮูธิในเยเมน

ที่น่าวิตกคือ วิกฤตการณ์ในขณะนี้กำลังกลายเป็น ‘สงครามตัวแทน’ จากการที่อิหร่านสนับสนุนกบฏฮูธิ ขณะที่ รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และประเทศมุสลิมที่มีระบอบกษัตริย์ชาติอื่นๆ ในตะวันออกกลางให้การสนับสนุนประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดีของเยเมน