รัสเซียขู่ยูเครนว่าจะต้องเผชิญผลที่ตามมา หลังเกิดการยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนเข้าไปในรัสเซีย ทำให้มีพลเมืองเสียชีวิต 1 ราย…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ว่า รัสเซียออกโรงขู่ยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ ว่าจะต้องเผชิญผลที่ตามมาชนิดไม่สามารถย้อนคืนได้อีก หลังรัสเซียอ้างเป็นครั้งแรกว่ามีพลเมืองเสียชีวิต 1 รายจากการโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปในรัสเซีย และกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของกองทัพรัฐบาลยูเครน

คณะกรรมการสืบสวนแห่งรัสเซียระบุว่า กระสุนปืนใหญ่จากยูเครนข้ามพรมแดนมาตกในสวนหลังบ้านของบ้านหลังหนึ่งในเมืองโดเนตสก์ (ชื่อเดียวกับเมืองโดเนตสก์ของยูเครน) บริเวณชายแดนฝั่งรัสเซีย ทำให้ชายคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้หญิงอีกคนได้รับบาดเจ็บ

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียส่งจดหมายถึงรัฐบาลยูเครน เพื่อประท้วงต่อการโจมตีข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นพฤติการรุกรานจากฝ่ายยูเครนต่ออธิปไตยแห่งดินแดนของรัสเซีย และต่อพลเมืองแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย กระทรวงต่างประเทศยังเตือนผ่านแถลงการณ์ด้วยว่า ยูเครนอาจต้องจะต้องเผชิญผลที่ตามมาชนิดไม่สามารถย้อนคืนได้อีก

ขณะเดียวกัน นายอันเดรย์ ลีเซนโก โฆษกคณะกรรมการกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ออกมาปฏิเสธและเรียกข้อกล่าวหาของรัสเซีย ว่าเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิง และกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นอาจเป็นฝีมือกลุ่มกบฏ ที่พยายามจะยั่วยุรัสเซียให้ใช้เข้ามาแทรกแซงในยูเครน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาตัวแทนกลุ่มก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลยูเครนเช่นกัน

ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของรัสเซียทำให้เกิดความกังวลขึ้นอีกครั้ง ว่ารัสเซียอาจเข้ามาแทรกแซงในยูเครน หลังจากหลายสัปดาห์ที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีท่าทีคล้ายว่าไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงในภาคตะวันออกของยูเครน โดยการถอนทหารออกจากแนวหน้าจำนวนหลายหมื่นนาย

...

อนึ่ง ด้านสถานการณ์ความรุนแรงในภาคตะวันออกของยูเครน การปะทะกันระหว่างกองทัพรัฐบาลและฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากฝ่ายกบฏยิงมิสไซล์สังหารเจ้าหน้าที่กองทัพหลายสิบนายเมื่อวันศุกร์ (11 ก.ค.) โดยล่าสุดในวันอาทิตย์ มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ในการปะทะที่เมืองที่ถูกฝ่ายกบฏควบคุม 2 แห่ง

ขณะที่สำนักข่าว 'อินเทอร์แฟ็กซ์' ของรัสเซียระบุว่า เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงที่นอกเมืองลูฮานสก์ ใกล้ชายแดนรัสเซีย โดยฝ่ายกองทัพยูเครนใช้รถถังถึง 70 คันในการโจมตี ขณะที่รัฐบาลกรุงเคียฟเผยว่า กองทัพทิ้งระเบิดโจมตีขบวนรถหุ้มเกราะและรถบรรทุกของฝ่ายกบฏกว่า 100 คัน ที่ขนนักรบกบฏจากรัสเซียเขามาในยูเครนด้วย