นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศจะใช้มาตรการที่เอื้อประโยชน์ทางด้าน ธุรกิจ และอื่นๆแก่ชาวมาเลย์มากขึ้น คล้ายกับนโยบาย "ภูมิปุตรา" อันอื้อฉาว...

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ประกาศผ่านทางโทรทัศน์เมื่อ 14 ก.ย.ว่า จะใช้มาตรการที่เอื้อประโยชน์แก่ชาวมาเลย์มากขึ้น ทั้งโอกาสด้านธุรกิจ การงาน การศึกษา การเคหะ ถึงแม้เคยสัญญาว่าจะปฏิรูปนโยบาย "ภูมิปุตรา" (บุตรของแผ่นดิน) อันอื้อฉาว ซึ่งให้อภิสิทธิ์พิเศษแก่ชาวมาเลย์และชนพื้นเมืองชนส่วนใหญ่ 68% มากกว่าชาวจีนและอินเดียชนส่วนน้อย แต่กุมเศรษฐกิจของประเทศ ท่ีบังคับใช้ในยุคทศวรรษ 1970 โดยนายนาจิบอ้างว่า ถ้าไม่ให้ชาวมาเลย์มีส่วนในเศรษฐกิจมากขึ้น มาเลเซียจะไม่สามารถเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2563 ตามที่ตั้งเป้าไว้

คำประกาศของราจิบ ซึ่งกุมอำนาจตั้งแต่ปี 2552 เท่ากับรื้อฟื้นนโยบาย “ภูมิปุตรา” อีกครั้ง คาดว่าเขาหวังผลทางการเมือง เอาใจสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรค “องค์กรสหชาติมาเลย์” (อัมโน) แกนนำรัฐบาลผสม “บาริซาน แนชนัล” ก่อนการเลือกผู้นำใหม่ของอัมโนเดือนหน้า แต่หลายฝ่ายชี้ว่ามาตรการใหม่ของนาจิบ จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวของมาเลเซียซึ่งมี เศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของอาเซียน

การเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้ แม้พันธมิตรพรรครัฐบาลจะชนะ แต่ได้ส.ส.น้อยลงมาก สาเหตุหนึ่งเพราะชาวจีนซึ่งมีราว 25% ของประเทศเทคะแนนให้พรรคฝ่ายค้าน อนึ่ง นโยบายภูมิปุตรา เคยก่อให้เกิดจลาจลด้านเชื้อชาติและภาวะ “สมองไหล” ของชาวจีนและอินเดียมาแล้ว.