นักเรียนอินเดียเสียชีวิตหลังกินอาหารกลางวันยอดพุ่ง 27 รายแล้ว ด้านผู้ปกครองประท้วงต้านรุนแรง ด้านแพทย์เผยสาเหตุเกิดจากมีสารปนเปื้อนในเมล็ดข้าว ซึ่งสารดังกล่าวเรียกว่า "สารฟอสฟอรัส"...

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนชาวอินเดียรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนแล้วเสียชีวิต และต้องเข้าโรงพยาบาลหลายรายว่า ล่าสุด เด็กนักเรียนหลายพันคน ปฏิเสธอาหารฟรีในรัฐพิหาร รัฐยากจนทางตะวันออกของประเทศ เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะถูกลอบวางยาพิษ หลังจากมีเด็กนักเรียนเสียชีวิตไป 22 คน จากการกินอาหารเที่ยงปนเปื้อนยาฆ่าแมลง โดยเด็กนักเรียน ซึ่งอายุตั้งแต่ 4-12 ปี เสียชีวิตหลังจากกินถั่วเลนทิน ผักสดและข้าว ซึ่งปรุงที่โรงเรียนประจำหมู่บ้านในรัฐพิหารเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จุดชนวนให้เกิดการประท้วงรุนแรงและสอบสวนหาสาเหตุ

ขณะเดียวกัน ยังมีเด็กนักเรียนอีกประมาณ 30 คน ที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเมืองปัฏนา เมืองเอกของรัฐพิหาร และเมืองชาปรา หลังจากรับประทานอาหาร ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาจปนเปื้อนยาฆ่าแมลง รายงานข่าว ระบุว่า เด็กในพื้นที่อื่นๆ ต่างพากันเทอาหารทิ้งลงถังขยะ หรือไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องอาหารที่โรงเรียน แม้ว่าจะมีคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนว่า โศกนาฏกรรมเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกก็ตาม

...


ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ตำรวจ และกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์สลดครั้งนี้ ล่าสุดพบนักเรียนตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 27 รายแล้ว

นอกจากนี้ นายแพทย์ของโรงพยาบาล ยืนยันว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของเด็ก พบว่า มีสารปนเปื้อนในเมล็ดข้าวซึ่งสารดังกล่าวเรียกว่า "สารฟอสฟอรัส" ซึ่งเป็นสารช่วยรักษาข้าวและข้าวสาลีให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น แต่พบว่ามีการใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันตำรวจ ยังคงพยายามควบคุมสถานการณ์ของกลุ่มประท้วงในรัฐพิหาร ที่มีท่าทีว่าจะรุนแรงมากขึ้น โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่ เป็นผู้ปกครองที่ออกมาต่อต้าน ไม่พอใจที่ต้องสูญเสียบุตรหลาน นอกจากนี้ผู้ปกครองหลายคน สั่งห้ามไม่ให้บุตรหลานกินหรือสัมผัสกับอาหารฟรี ที่ทางโรงเรียนจัดเอาไว้ให้ แม้ว่าโรงเรียนยืนยันว่า อาหารปลอดภัย ขณะที่ทางการเร่งตรวจสอบสาเหตุอาหารโรงเรียนปนเปื้อนยาฆ่าแมลงปนเปื้อน