บ้านกลางถนนในประเทศจีนของสองตายาย ที่ไม่ยอมให้รัฐทุบทิ้งเพื่อสร้างถนน ถูกทุบทำลายแล้ว หลังทั้งคู่ยอมรับเงินชดเชยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่า อวสานบ้านกลางถนน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของภาครัฐ เมื่อบ้านสูง 5 ชั้นของตายายชาวจีน 2 คน ในมณฑลเจ้อเจียง ที่ปฏิเสธไม่ยอมให้รัฐบาลทุบทิ้งเพื่อสร้างถนน เนื่องจากถูกกดเงินชดเชย ถูกทุบทำลายแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) โดยหัวหน้าหมู่บ้านเผยว่า ทั้งสองยอมรับเงินชดเชยที่รัฐเสนอให้แล้ว

เฉิน ซุยไช่ ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเสี่ยหยางจาง ในเมืองเหวินหลิง มณฑลเจ้อเจียง เปิดเผยว่า ตึกสูง 5 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านของผู้เฒ่า ลั่ว เปาเกิน เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด กับภรรยา ถูกทุบทำลายแล้ว หลัง 2 ตายายยอมรับเงินชดเชยจำนวน 260,000 หยวนแล้ว (ราว 1.28 ล้านบาท) และยอมให้ผู้รับเหมาทุบบ้านเพื่อใช้เป็นพื้นที่สร้างถนนตัดทะลุหมู่บ้าน ไปยังสถานีรถไฟเหวินหลิง

ทั้งนี้ บ้านเรือนในละแวกเดียวกันกับบ้านของหลู ถูกทุบทำลายทั้งหมดแล้ว ส่วนถนนเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ นายเฉินเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มาทำข่าวก่อนหน้านี้ว่า สองตายายซื้อบ้านในราคา 600,000 หยวน (ราว 2.9 ล้านบาท) เบื้องต้นจึงไม่ยอมรับเงินชดเชยตามมาตรฐาน จำนวน 220,000 หยวน (ราว 1 ล้านบาท) จากรัฐบาล ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วจำนวนเงินชดเชยถูกเพิ่มเป็น 260,000 หยวน แต่ทั้งคู่ก็ยังปฏิเสธอยู่ดี

...

อย่างไรก็ดี หลังจากนายลั่วเข้าพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อเจรจาเมื่อบ่ายวันศุกร์ (30 พ.ย.) ที่ผ่านมา เขากลับตัดสินใจรับเงินชดเชยจำนวนดังกล่าว โดยนายเฉินอ้างว่า ลั่ว ทนนักข่าวจำนวนมากที่เข้ามาทำข่าวทุกวันๆ ไม่ไหว และสมัครใจรับเงินชดเชยจำนวน 260,000 หยวนด้วยตัวเอง

อนึ่ง จีนมักใช้วิธีกดดันให้เจ้าของบ้านยอมหลีกทางเพื่อการก่อสร้าง บางครั้งถึงกับใช้วิธีขั้นเด็ดขาดอย่างตัดการจ่ายน้ำและไฟฟ้า หรือแม้แต่เข้ามารื้อถอนบ้านดื้อๆ ขณะที่เจ้าของออกไปทำธุระข้างนอกแค่วันเดียว แต่ในกรณีของลั่ว เขาเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า น้ำกับไฟฟ้าที่บ้านของเขายังใช้การได้ดี.