วันเสาร์สบายๆวันนี้ต้องเขียนเรื่องเครียดอีกแล้ว เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำบ้าคลั่งของสหรัฐฯ ถือฤกษ์บ่ายวันที่ 3 เมษายน ลงนามขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก โดยถือเป็น วันประกาศอิสรภาพ (Liberation Day) เพื่อสร้างฝัน American Dream ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง Make America Great Again ทั้งที่สหรัฐฯก็เป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งอยู่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐฯก็ใหญ่อันดับหนึ่ง จีดีพี 2024 ก็สูงถึง 28.48 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 26.11% ของจีดีพีโลก (110 ล้านล้านดอลลาร์) มี จีน ตามมาห่างๆ อันดับ 2 แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้ง โจ ไบเดน และ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับกลัวจีนจนขึ้นสมอง การขึ้นภาษีตอบโต้ครั้งนี้มีจีนเป็นเป้าหมายหลัก แต่อีกกว่า 180 ประเทศโดนด้วย
ผลของ มหาสงครามการค้าโลก ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อขึ้นครั้งนี้ กูรูเศรษฐกิจ ประเมินว่า สหรัฐฯและจีนต่างก็จะจนลง พึ่งพากันน้อยลง แต่ประเทศอื่นที่เหลือตายหมด
การขึ้นภาษีครั้งนี้ ทรัมป์ประกาศขึ้นรวดเดียว 185 ประเทศทั่วโลก ไม่เว้นประเทศเล็กประเทศน้อย ขึ้นขั้นต่ำที่ 10% และ 10 ประเทศที่โดนขึ้นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) สูงสุดมี ประเทศไทย รวมอยู่ด้วย ดังนี้ อันดับ 1 สปป.ลาว ถูกขึ้นภาษี 48% อันดับ 2 มาดากัสการ์ 47% อันดับ 3 เวียดนาม 46% อันดับ 4 ศรีลังกา เมียนมา 44% อันดับ 5 บังกลาเทศ เซอร์เบีย บอตสวานา 37% อันดับ 6 ประเทศไทย 36% อันดับ 7 จีน 34% อันดับ 8 ไต้หวัน 32% อันดับ 9 แอฟริกาใต้ 30% อันดับ 10 ปากีสถาน 29% จะเห็นว่าประเทศที่ถูกทรัมป์ขึ้นภาษีตอบโต้สูงสุด ล้วนเป็นประเทศที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับจีน
จีนถูกขึ้นภาษีตอบโต้ 34% เมื่อรวมกับภาษีนำเข้าที่ทรัมป์ได้ขึ้นไปก่อนหน้านี้ สินค้าจีนส่งไปสหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 54% ทำให้จีนได้รับผลกระทบมากที่สุด ปี 2024 สหรัฐฯนำเข้าสินค้าจีน กว่า 438,900 ล้านดอลลาร์ มากเป็นอันดับ 2 ส่วน เวียดนามถูกขึ้นภาษีตอบโต้สูงถึง 46% เพราะเป็นฐานผลิตของบริษัทที่ย้ายมาจากจีน ปีที่แล้วเวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯสูงถึง 136,600 ล้านดอลลาร์ บริษัทสหรัฐฯที่มีโรงงานผลิตในเวียดนาม เช่น แอปเปิล ไนกี้ อินเทล H&M โคคา–โคลา นอร์ธเฟส โดนขึ้นภาษีนำเข้าหมด
...
ประธานาธิบดีทรัมป์ นอนฝันหวานมาหลายคืนว่า การขึ้นภาษีตอบโต้ครั้งนี้จะทำให้สหรัฐฯร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ปีเตอร์ นาวาร์โร ให้สัมภาษณ์ ทีวีฟอกซ์นิวส์ ที่โปรทรัมป์ว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้ทำให้สหรัฐฯมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใน 10 ปี สหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ และ การขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน 25% จะเพิ่มรายได้ให้สหรัฐฯอีกปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์
แต่ มาร์ค แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Moody’s ไม่เชื่อว่าจะเก็บภาษีได้มากขนาดนั้น เก็บได้ 100,000-200,000 ล้านเหรียญ ก็เก่งแล้ว
ในขณะที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีความเชื่ออย่างโง่ๆว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้จะทำให้สหรัฐฯร่ำรวยมหาศาล แต่ Yale Budget Lab มหาวิทยาลัยเยล ประเมินว่า ถ้าทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า 20% จะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3,400–4,200 ดอลลาร์ หรือ 142,000 บาทต่อปี แต่ทรัมป์ขึ้นภาษีสูงกว่าที่คาดมาก สรุปก็คือ ภาษีนำเข้าที่ทรัมป์ขึ้นไปทั้งหมด ชาวอเมริกันจะรับเคราะห์เป็นผู้จ่ายทั้งหมด ไม่รู้ทรัมป์ใช้สมองส่วนไหนคิด จึงเชื่อว่าการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศทั่วโลกจะทำให้ชาวอเมริกันรวยขึ้น
Jetro องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ต้นทุนนำเข้าจะกระทบกำไรของบริษัทอเมริกันที่ต้องพึ่งชิ้นส่วนจากจีน และ ภาษีนำเข้ารถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 25% จะทำให้ชาวอเมริกันได้ผลกระทบมากที่สุด
แม้ ไทยจะถูกขึ้นภาษีถึง 36% สูงเป็นอันดับ 6 แต่ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร บอกว่า ไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ ระยะสั้นต้องดูว่าสามารถเจรจาต่อรองอะไรได้บ้าง จะตั้งใครไปพูดคุย จะไปพูดคุยกับใคร ระดับไหน ขณะที่ เกาหลีใต้ ถูกขึ้นภาษี 25% น้อยกว่าไทยเยอะ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ประกาศ มาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ภาคธุรกิจทันที ผมขอให้โชคดีนะครับ...ประเทศไทย อันเป็นที่รักของเรา.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม