โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะตั้งกำแพงภาษีสุรายุโรปจำนวน 200% เพื่อตอบโต้ที่สหภาพยุโรปมีมาตรการตอบโต้การเก็บภาษีเหล็กกล้ากับอะลูมิเนียมของเขา
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มี.ค. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่า รัฐบาลของเขาจะตั้งภาษีศุลกากรกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นำเข้ามาจากสหภาพยุโรปในอัตรา 200% ถ้า EU ไม่ยกเลิกการตั้งกำแพงภาษีสุราสหรัฐฯ 50% ที่พวกเขาประกาศในวันพุธที่ผ่านมา
“หากกำแพงภาษีนี้ไม่ถูกนำออกไปในทันที อีกไม่นานสหรัฐฯ จะกำหนดภาษีศุลกากรอัตรา 200% ต่อไวน์, แชมเปญ และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดที่มาจากฝรั่งเศสและชาติสมาชิก EU อื่นๆ ทั้งหมด” ข้อความของนายทรัมป์ระบุ “นี่จะเป็นเรื่องดีสำหรับธุรกิจไวน์และแชมเปญในสหรัฐฯ”
การตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปนี้ เริ่มขึ้นหลังจากสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีเหล็กกล้า (steel) กับอะลูมิเนียมทั้งหมดที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% เมื่อเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันพุธที่ผ่านมา (12 มี.ค.) ทำให้ EU ตอบโต้ทันทีด้วยการประกาศตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าสหรัฐฯ มูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านยูโร โดยจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนเมษายน
ด้านฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไวน์เข้าสู่สหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด ประณามการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ โดยนายโลรองต์ แซงต์-มาร์แตง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระบุผ่าน X ว่า “ทรัมป์กำลังขยายสงครามการค้าที่เขาเป็นฝ่ายเริ่ม และประเทศของผมจะต่อสู้กลับไป” “เราจะไม่ยอมจำนนต่อคำขู่และจะปกป้องอุตสาหกรรมของเราเสมอ”
ส่วนนายโอลอฟ กิล โฆษกฝ่ายการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีเหล็กกล้ากับอะลูมิเนียมทันที และว่าพวกเขาต้องการเจรจาเพื่อไม่ให้มีการตั้งกำแพงภาษีอีกในอนาคต เพราะผลลัพธ์ของมันมีแต่เสียกับเสีย และเราต้องการผลลัพธ์แบบวิน-วิน
...
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn