รัฐบาลสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเก็บภาษีเหล็กกล้าและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากทุกประเทศ ทำให้สหภาพยุโรปกับแคนาดา มีมาตรการภาษีตอบโต้ทันที
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีเหล็กกล้า (steel) และอลูมิเนียม (aluminium) จากทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% แล้ว ในวันพุธที่ 12 มี.ค. 2568 หลังจากลงนามคำสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกำแพงภาษีของนายทรัมป์ ที่อ้างว่ามีเป้าหมายเพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้าและช่วยเหลือผู้ผลิตในประเทศ แต่ก็มีความเสี่ยงทำให้ราคาสินค้ามากมายในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และเสี่ยงทำให้เกิดสงครามการค้าไปทั่วโลก
ในวันพุธ สหราชอาณาจักรซึ่งโดนมาตรการภาษีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายทรัมป์กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ประกาศตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 2.6 หมื่นล้านยูโร โดยจะยกเลิกระงับการเก็บภาษีที่มีอยู่ในปัจจุบันในวันที่ 1 เม.ย. และจะมีมาตรการเพิ่มเติมในช่วงกลางเดือนเมษายน
ขณะเดียวกันนายโดมินิก เลบลอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศแคนาดาบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวมมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตรา 25% โดยจะเพิ่มผลิตภัณฑ์อย่าง อุปกรณ์กีฬา, คอมพิวเตอร์ และเหล็กหล่อเข้าไปด้วย
นายเลอบลองบอกด้วยว่า รัฐบาลอาจบังคับใช้มาตรการภาษีเพิ่มเติม เพื่อตอบโต้หลังสหรัฐฯ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีเหล็กกล้าหรืออลูมิเนียมเป็นส่วนผสม ก็อาจถูกเก็บภาษีด้วย
ด้านเซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรระบุว่า เขายังไม่มีแผนจะตอบโต้ในทันที และพยายามจะเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อน แต่เขาจะไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ ออกไปเช่นกัน
...
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign