อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันแล้ว จ่อยุติสงครามที่ดำเนินมานาน 15 เดือน และปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออยู่กลับบ้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล ทานี นายกรัฐมนตรีของประเทศกาตาร์ ยืนยันในวันพุธที่ 15 ม.ค. 2568 ว่า อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันแล้ว โดยการหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.นี้

นายอัล ทานี บอกอีกว่า กาตาร์จะร่วมมือกับอียิปต์ และสหรัฐฯ เพื่อรับประกันว่าทุกฝ่ายจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ และเขาหวังว่านี่จะเป็นหน้าสุดท้ายของสงครามในกาซาแล้ว

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงยืนยันเรื่องอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ในวันที่ 15 ม.ค. 2568
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงยืนยันเรื่องอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ในวันที่ 15 ม.ค. 2568

...

ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยืนยันว่า อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันแล้ว โดยมีอียิปต์กับกาตาร์เป็นตัวกลาง ซึ่งข้อตกลงนี้จะหยุดการต่อสู้ในกาซา เปิดทางส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวปาเลสไตน์ และนำตัวประกันกลับมาหาครอบครัวอีกครั้ง หลังจากถูกจับไป 15 เดือน

ไบเดนบอกด้วยว่า ในช่วงเฟสที่ 1 ของการหยุดยิง ชาวปาเลสไตน์จะสามารถกลับไปสู่บ้านของพวกเขาได้ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซาจะเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนั้น อิสราเอลกับฮามาสจะเจรจากันเรื่องการจัดการที่จำเป็นในการหยุดยิงเฟสที่ 2 ซึ่งอาจนำไปสู่การยุติสงครามอย่างถาวร แต่หากการเจรจาใช้เวลานานกว่า 6 สัปดาห์ การหยุดยิงเฟสที่ 2 จะขยายออกไป

ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยอีกว่า ส่วนการหยุดยิงเฟสที่ 3 ตัวประกันกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่จะได้กลับไปหาครอบครัว และแผนการสร้างฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่จะเริ่มต้นขึ้น

สงครามตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ผู้นำระดับสูงของฮามาสมากมายเสียชีวิต นักรบหลายพันคนก็เสียชีวิต และตอนนี้พวกเขาก็อ่อนแอลงในเชิงปฏิบัติ และพวกเขาก็เห็นชอบข้อตกลงนี้

ไบเดนบอกอีกว่า เขาพอใจมากที่วันนี้มาถึง ทั้งเพื่อชาวอิสราเอลที่บุคคลอันเป็นที่รักยังถูกจับตัวเอาไว้ และเพื่อช่วยกาซาที่ต้องทนทุกข์อย่างไม่อาจจินตนาการ สงครามครั้งนี้ทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากเกินไปแล้ว ด้วยข้อตกลงนี้ ชาวปาเลสไตน์จะสามารถสร้างกาซาขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีฮามาส

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc