• "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้วและได้รับการรับรองจากรัฐสภา เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่การเตรียมพร้อมสำหรับวันประวัติศาสตร์ก็กำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่ ตั้งแต่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ไปจนถึงขบวนพาเหรดประธานาธิบดี และงานเลี้ยงแบบพิธีการที่จะมีขึ้นในช่วงค่ำ 
  • ขณะที่ประเด็นด้านความปลอดภัยของว่าที่ประธานาธิบดีดูจะเป็นประเด็นหลักที่ทางการสหรัฐฯให้ความสำคัญอย่างมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์ความพยายามลอบสังหารทรัมป์ถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในช่วงแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งปีที่ผ่านมา

พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดจัดขึ้นไว้ในวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาสหรัฐฯ  ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2540 ที่พิธีสาบานตนประธานาธิบดี ตรงกับวันหยุดมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ส่งผลให้ในครั้งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากขึ้น

โดยทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 และในส่วนของงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 60 แล้ว โดยจัดขึ้นที่ที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ฝั่งตะวันตก ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

คณะกรรมการร่วมของสภาคองเกรสว่าด้วยพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง (Joint Congressional Committee on Inaugural Ceremonies (JCCIC) ยังไม่ยืนยันรายชื่อผู้แสดง วิทยากร และบุคคลสำคัญต่างๆ แต่มีหลายคนที่เปิดเผยออกมาแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าพิธีการจะดำเนินไปตามลำดับเหตุการณ์ตามปกติ ตั้งแต่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเริ่มต้นด้วยการที่ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือก และรองประธานาธิบดีได้รับเลือก จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะตามด้วยคำปราศรัยเปิดงานของทรัมป์ต่อประชาชน

...

จากนั้นจะเข้าสู่พิธีการลงนามในห้องทำงานของประธานาธิบดี หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งแล้ว ประธานาธิบดีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งจะเดินทางไปยังห้องประธานาธิบดีในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นที่ที่ทรัมป์จะทำงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขา ได้แก่ การลงนามการเสนอชื่อ ประกาศ และคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อกำหนดทิศทางสำหรับการบริหารของเขา

เสร็จจากงานพิธีการจะตามด้วยงานเลี้ยงอาหารกลางวันในอาคารรัฐสภา ซึ่งทางรัฐสภาจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเปิดงานตามธรรมเนียม ผู้เข้าร่วมงานได้แก่ สมาชิกรัฐสภา ศาลฎีกา และแขกผู้มีเกียรติอื่นๆ โดยทั่วไปแล้ว กำหนดการจะประกอบด้วยสุนทรพจน์ มอบของขวัญ และการปราศรัยเพื่อแสดงความยินดีต่อฝ่ายบริหารชุดใหม่

ในช่วงบ่ายหลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ทรัมป์และรองประธานาธิบดี จะได้ชมการเดินสวนสนามของเหล่าทหาร และขบวนพาเหรด ที่บันไดทางด้านหน้าของรัฐสภา ซึ่งจะเป็นขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ไปตามถนนเพนซิลเวเนีย  

สุดท้ายของการเฉลิมฉลองจะจบลงด้วยงานเลี้ยงฉลองวันเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบพิธีการ งประธานาธิบดีทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 จะะปรากฎตัวพร้อมกันและอาจจะมีการควงคู่เต้นรำตามธรรมเนียม ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชมพิธีการสาบานตนรับตำแหน่ง สามารถรับชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ช่องต่างๆ ที่คาดว่าจะถ่ายทอดสดกันตลอดทั้งงาน

เปิดรายชื่อศิลปินร่วมแสดง

งานนี้จะเริ่มต้นด้วยการแสดงดนตรี นำโดยคณะนักร้องประสานเสียงจากมหาวิทยาลัยเนแบรสกา-ลินคอล์น หลังจากนั้น วงดุริยางค์ทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ จะแสดงต่อ โดยมีเอมี โคลบูชาร์ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการร่วมของรัฐสภาว่าด้วยพิธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 60 จะเป็นผู้ดำเนินรายการ

หลังจากรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ เข้าพิธีสาบานตน จะมีผู้พิพากษาศาลฎีกาเบรตต์ คาวานอห์ เป็นผู้ทำพิธี ตามมาด้วยการแสดงเพลง “America the Beautiful” โดยแคร์รี่ อันเดอร์วูด ศิลปินผู้ได้รับรางวัลแกรมมี่ ร่วมกับวง Armed Forces Chorus และ Naval Academy Glee Club

อันเดอร์วูด วัย 41 ปี เป็นศิลปินแนวคันทรีที่เริ่มต้นอาชีพในรายการ American Idolเธอเป็นที่รู้จักจากเพลงฮิตอย่าง “Inside your Heaven” “Jesus Take the Wheel” และ “Before He Cheats”

ขณะเดียวกัน The Village People ซึ่งเป็นวงดนตรีโปรดของทรัมป์ จะไปร่วมแสดงดนตรี ที่ผ่านมาทรัมป์มักจะใช้เพลงฮิต “YMCA” และ “Macho Man” ของวงนี้ในการรณรงค์หาเสียงของเขาเป็นประจำ

...

เตรียมพร้อมด้านความปลอดภัย

บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดูแลด้านความมั่นคง ได้แถลงชี้แจงแผนด้านความปลอดภัยสำหรับพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานพร้อมบัตรเข้าชมได้ประมาณ 250,000 คน โดยนายเดฟ ซันด์เบิร์ก ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายรับผิดชอบสำนักงานเอฟบีไอ ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ไม่พบภัยคุกคามที่เจาะจงหรือน่าเชื่อถือใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่อาคารรัฐสภา โดยบอกว่าเอฟบีไอจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานอื่นเพื่อแบ่งปันข้อมูล และหยุดยั้งภัยคุกคามใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นในวันสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น  

ทางด้านนายเจ. โทมัส แมงเกอร์ หัวหน้าตำรวจรัฐสภาสหรัฐ กล่าวว่า ยังไม่มีภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายใด และเขาคิดว่าภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับงานนี้อาจเป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว และเขากล่าวว่าการเพิ่มระดับความปลอดภัยที่เกิดขึ้นรอบอาคารรัฐสภาหลังจากวันที่ 6 มกราคม และสำหรับพิธีศพประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ ที่มีอยู่แล้วนั้นจะยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปในพิธีสำหรับผู้ที่มีตั๋วเข้าชม

ขณะเดียวกันนายแมตต์ แม็กคูล จากสำนักงานภาคสนามหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ กล่าวว่า สำนักงานการบินแห่งสหรัฐฯ จะประกาศข้อจำกัดการบินชั่วคราวทั้งในและรอบๆ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะเดียวกันแผนการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมของหน่วยข่าวกรองจะยังคงใช้โดรนเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกัน และขอประชาชนอย่าตกใจหากเห็นโดรนเหล่านี้ระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง หรือระหว่างการฝึกซ้อมที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า