ขณะที่พิมพ์คอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่นี้ สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของแคนาดาประโคมโหมข่าวว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาเตรียมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม

จัสติน ปิแอร์ เจมส์ ทรูโด อายุ 53 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของแคนาดา เป็นลูกชายคนโตของปิแอร์ ทรูโด อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 15 กับนางมาร์กาเร็ต ทรูโด เป็นที่รู้กันว่าทรูโดเติบโตมาในครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทำให้ทรูโดถูกหล่อหลอมและมีประสบการณ์ทางการเมืองตั้งแต่เป็นเด็กเล็กอยู่

นอกจากจะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแล้ว ทรูโดยังมีการศึกษาที่ดีจบจากสถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าของแคนาดา ทรูโดสำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาวรรณกรรมจากมหาวิทยาลัยแมคกิล และปริญญาตรีสาขาศึกษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย

ค.ศ.2013 ตอนที่อายุ 42 ปี ทรูโดได้รับเลือกตั้งให้เป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม หลังจากนั้นอีก 2 ปี ทรูโดก็นำพรรคเสรีนิยมไปสู่รัฐบาลเสียงข้างมากในการเลือกตั้งเมื่อ ค.ศ.2015 และได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่ออายุ 44 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์แคนาดา

หากท่านจำได้ ย้อนไปในสมัยนั้น ทรูโดเป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่นำการเปลี่ยนแปลงทั้งของแคนาดาและของโลก ด้วยภาพลักษณ์ที่เปิดกว้าง เป็นกันเอง และเข้าถึงง่าย รวมทั้งนโยบายที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และการปฏิรูปการบริหารจัดการผู้อพยพ สิ่งเหล่านี้ทำให้คะแนนนิยมของทรูโดสูงปรี๊ด

ผู้อ่านท่านครับ ช่วงเวลาอันหวานชื่นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทรูโดจะมีภาพลักษณ์ที่ดี แต่จากการบริหารบ้านเมืองตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ประชาชนคนแคนาดาเริ่มรู้สึกว่านโยบายของทรูโดขาดความต่อเนื่องและเน้นภาพลักษณ์มากกว่าการปฏิบัติจริง

...

รัฐบาลของทรูโดโดนโจมตีจากทั้งฝ่ายค้านและสื่อมวลชน โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งกรณีที่ทรูโดกดดันอดีต รมต.ยุติธรรมให้ช่วยบริษัท SNC-Lavalin บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ในแคนาดา มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อปกป้องบริษัทนี้จากข้อหาคอร์รัปชั่น และกรณีการมอบสัญญาโครงการทุนช่วยเหลือเยาวชนมูลค่าประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ให้กับ WE Charity ซึ่งมูลนิธินี้มีความใกล้ชิดกับครอบครัวของทรูโด โดยไม่เปิดประมูลและไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส

แม้ว่าทรูโดจะถูกยกย่องในฐานะผู้นำที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ในทางปฏิบัติ ทรูโดกลับอนุมัติโครงการขยายท่อส่งน้ำมัน Trans Mountain Pipeline ทำให้กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชนพื้นเมืองไม่พอใจ เพราะขัดกับคำมั่นที่ทรูโดเคยให้ไว้ว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทรูโดโดนด่าอย่างหนักคือเรื่องการบริหารจัดการผู้อพยพ เพราะที่ผ่านมาการใช้จ่ายในโครงการสังคมต่างๆ ของรัฐบาลทำให้หนี้สาธารณะของแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่รัฐบาลทรูโดกลับมีนโยบายเปิดกว้างต่อผู้อพยพ โดยเฉพาะการรับผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ทำให้คนแคนาดาผู้เสียภาษีจำนวนไม่น้อยไม่พอใจที่รัฐบาลใช้ทรัพยากรของประเทศไปในการดูแลผู้อพยพมากกว่าประชาชนคนของตัวเอง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจฝืดเคือง คนแคนาดาต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงจนเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ทำให้คู่แข่งอย่างพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน คะแนนนิยมของพรรคเสรีนิยมและทรูโดก็ลดลงอย่างมาก โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่าพรรคเสรีนิยมอาจแพ้ต่อพรรคอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นภายในเดือนตุลาคม 2025

ไม่เพียงแต่คะแนนนิยมภายนอกจะลดลง ภายในพรรคเสรีนิยมก็มีความขัดแย้งรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องที่ทรูโดพยายามปลดคริสเทีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฟรีแลนด์คัดค้านข้อเสนอการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล และเมื่อถูกกดดันมากจนทนไม่ไหว เธอก็ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้น ฟรีแลนด์ก็วิพากษ์วิจารณ์ทรูโดว่าใช้กลอุบายทางการเมือง แทนที่จะเน้นผลประโยชน์ของชาติ

ทรูโดเป็นผู้นำอีกคนหนึ่งที่ ‘ขึ้นสวย แต่ลงไม่สวย’


นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม