- นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินทางไปเยือนกรีนแลนด์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่บิดาของเขาได้กล่าวย้ำอีกครั้งถึงความต้องการที่จะขยายดินแดน ด้วยการเข้าซื้อประเทศกรีนแลนด์ ซึ่งปัจจุบันนี้กรีนแลนด์เป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก
- ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนความขัดแย้งขึ้นในเดือนธันวาคม เมื่อเขากล่าวว่า การเป็นเจ้าของและควบคุมกรีนแลนด์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับความมั่นคงของสหรัฐฯ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยแสดงความสนใจที่จะซื้อเกาะกรีนแลนด์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ผู้นำกรีนแลนด์กลับปฏิเสธข้อเสนอทั้งสองครั้ง
- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถไปยึดครองหรือเข้าซื้อดินแดนอื่นได้ แต่คำกล่าวของทรัมป์อาจบ่งชี้ว่าวิสัยทัศน์ "อเมริกาต้องมาก่อน" ของทรัมป์นั้นรวมถึงการอวดอำนาจของมหาอำนาจนอกพรมแดน เป็นไปเพื่อการค้าของสหรัฐฯ และผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ
สื่อต่างๆของสหรัฐฯรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของทรัมป์ เปิดเผยว่าเขาจะไปเยือนกรีนแลนด์ในสัปดาห์นี้ โดยวางแผนที่จะบันทึกวิดีโอสำหรับพอดแคสต์ ในระหว่างการเยือนเป็นการส่วนตัวเป็นเวลา 1 วัน โดยที่ผ่านมา ทรัมป์ จูเนียร์ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในปี 2024 โดยปรากฏตัวบนเวทีหาเสียง ที่ชุมนุมทางการเมืองและออกสื่อบ่อยครั้ง
ขณะที่ทรัมป์ก็ได้โพสต์ข้อความยืนยันการเดินทางของลูกชายเขา โดยบอกว่า โดนัลด์ จูเนียร์ พร้อมด้วยตัวแทน จะเดินทางไปยังกรีนแลนด์ เพื่อเยี่ยมชมพื้นที่และสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดบางแห่ง พร้อมระบุว่า กรีนแลนด์และประชาชนของเกาะแห่งนี้ จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล หากและเมื่อเกาะนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เขายังบอกว่าจะปกป้องและรักษากรีนแลนด์จากโลกภายนอกที่โหดร้าย และจะทำให้ "กรีนแลนด์ยิ่งใหญ่อีกครั้ง!”
...
นอกจากนี้ยังโพสต์คลิปชาวกรีนแลนด์สวมหมวกสีแดงที่มีข้อความ Make America Great Again บอกให้ทรัมป์ซื้อกรีนแลนด์และปลดปล่อยกรีนแลนด์จากการยึดครองของเดนมาร์ก
โดยทรัมป์ไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เสนอให้ซื้อกรีนแลนด์ แนวคิดนี้ได้รับการเสนอครั้งแรกโดยแอนดรูว์ จอห์นสัน ประธานาธิบดีคนที่ 17 ของสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1860 นอกจากนี้ อดีตประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมน ก็เคยพยายามซื้อกรีนแลนด์ในปี พ.ศ. 2489 และในปี พ.ศ. 2410
ปฏิกิริยาจากกรีนแลนด์และเดนมาร์ก
กระทรวงการต่างประเทศของกรีนแลนด์เปิดเผยว่า ได้ทราบถึงแผนการเยือนกรีนแลนด์ของโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์แล้ว แต่เนื่องจากนี่เป็นการเยือนส่วนตัว ไม่ใช่การเยือนอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯหรือภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์ กระทรวงการต่างประเทศของเดนมาร์กระบุว่า ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีมูเต เอเกเด ของกรีนแลนด์กล่าวเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย และเราจะไม่มีวันขาย เพราะกรีนแลนด์เป็นของประชาชนชาวกรีนแลนด์ พร้อมใช้โอกาสนี้ผลักดันเป้หมายการแยกตัวจากเดนมาร์ก โดยกล่าวว่าเกาะแห่งนี้จะต้องหลุดพ้นจากพันธนาการของลัทธิล่าอาณานิคม
และหลังจากทรัมป์พูดเรื่องความประสงค์จะซื้อกรีนด์แลนด์ได้ไม่นาน รัฐบาลเดนมาร์กได้ประกาศเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม เป็นจำนวนมหาศาล โดยนาโทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์ก กล่าวว่างบประมาณก้อนนี้เป็นจำนวนเงินอย่างน้อย 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กษัตริย์เฟรเดริก ที่ 10 แห่งเดนมาร์ก ทรงปรับรูปโฉมตราประจำราชวงศ์ให้ระบุถึงกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรอย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ทรงกล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสปีใหม่ว่าราชอาณาจักรเดนมาร์กเป็นหนึ่งเดียว จนถึงกรีนแลนด์ และยังทรงเพิ่มเติมว่า เดนมาร์กกับกรีนแลนด์เป็นหนึ่งเดียวกัน
ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของกรีนแลนด์
แม้กรีนแลนด์เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ได้เป็นภูมิภาค ปัจจุบันเป็นเขตปกครองตนเองภายใต้เดนมาร์ก เกาะกรีนแลนด์ตั้งอยู่บนเส้นทางที่สั้นที่สุดจากอเมริกาเหนือไปยังยุโรป จึงมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์อวกาศขนาดใหญ่ของสหรัฐฯด้วย
ขณะเดียวกันกรีนแลนด์ยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศ Thule ฐานทัพที่อยู่เหนือสุดของกองทัพสหรัฐฯ ตั้งอยู่ห่างจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลไปประมาณ 1,200 กิโลเมตร และสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2494 โดยบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ รวมถึงแร่ธาตุหายาก และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะแก่การค้าขาย เนื่องจากมหาอำนาจระดับโลกพยายามขยายขอบข่ายการเดินเรือในอาร์กติกเซอร์เคิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียมองว่าภูมิภาคนี้เป็นโอกาสเชิงยุทธศาสตร์
...
ก่อนหน้านี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ขู่ว่าจะยึดครองคลองปานามา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยกล่าวหาปานามาว่าเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงคลองมากเกินไป ทำให้ประธานาธิบดีแห่งปานามาต้องออกมาตอบโต้เอง โดยกล่าวว่า ทุกตารางเมตร องคลองและพื้นที่โดยรอบเป็นของปานามา.