ตร.สหรัฐฯ เผยชื่อคนขับไซเบอทรัค ชี้เป็นอดีตทหาร ยิงตัวเองก่อนรถระเบิด

สหรัฐฯ เผยชื่อคนขับรถไซเบอร์ทรัคที่ระเบิดหน้าโรงแรมทรัมป์แล้ว เผยเป็นอดีตทหารกองกำลังพิเศษ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับคดีที่นิวออร์ลีนส์ แม้คนร้ายทั้งสองจะมีความคล้ายกันหลายอย่าง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจลาสเวกัส เปิดเผยชื่อของชายผู้เช่ารถไซเบอร์ทรัค ของบริษัทเทสลา ซึ่งระเบิดหน้าที่หน้าโรงแรม ทรัมป์ โฮเทล จนเกิดไฟลุกท่วมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้ว ว่าคือนาย แมทธิว อลัน ลิฟเวลส์เบอร์เกอร์ (Matthew Alan Livelsberger) อายุ 37 ปี เป็นอดีตทหารกองกำลังพิเศษ เคยประจำการในเยอรมนี

นายเควิน แมคมาฮิลล์ จากสำนักงานตำรวจลาสเวกัส จัดงานแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีที่ 2 ม.ค. 2568 ระบุว่า พวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่าศพที่พบในรถเทสลาคันดังกล่าวคือนายลิฟเวลส์เบอร์เกอร์ แต่พวกเขายังไม่แน่ใจ 100% จนกว่าจะมีการยืนยันจากดีเอ็นเอ

นายแมคมาฮิลล์บอกอีกว่า ศพที่พบในมีสภาพไหม้เกรียมจนเกินจะบอกได้ว่าเป็นใคร และผลการตรวจสอบพบว่า บนศีรษะของศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่เชื่อว่าเจ้าตัวเป็นคนลงมือเองด้วย

ทั้งนี้ เหตุรถไซเบอร์ทรัคระเบิดที่ลาสเวกัส คนขับรถที่เชื่อว่าคือนายลิฟเวลส์เบอร์เกอร์ ขับรถมาจากโคโลราโด ก่อนจะนำรถไปจอดที่หน้าประตูกระจกของโรงแรม ทรัมป์ โฮเทล แล้วจุดระเบิดดอกไม้ไฟ, ถังแก๊ส และเชื้อเพลิงแคมป์ปิ้ง ที่อยู่ภายในรถ ทำให้เกิดระเบิดรุนแรง ส่งผลให้ตัวเขาเสียชีวิตทันที นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 7 คน

เจ้าหน้าที่ของลาสเวกัสระบุว่า ความแข็งแกร่งและการออกแบบของไซเบอร์ทรัคช่วยจำกัดการระเบิด และส่งแรงระเบิดขึ้นสู่ด้านบนแทนที่จะเป็นโดยรอบ แม้แต่ประตูกระจกของโรงแรมที่อยู่ห่างไปไม่กี่เมตรก็ไม่แตกเพราะแรงระเบิด

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุของชายคนนี้ “ผมสามารถเรียกเหตุการณ์นี้ได้ว่า การจบชีวิตตัวเองพร้อมกับการระเบิดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นในทันที” นายแมคมาฮิลล์กล่าว

ผลจากการค้นซากรถ ตำรวจพบทั้งบัตรประจำตัวทหาร, หนังสือเดินทาง, ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก, ดอกไม้ไฟ, ไอโฟน, สมาร์ทวอตช์ และบัตรเครดิตอีกหลายใบที่มีชื่อของนายลิฟเวลส์เบอร์เกอร์ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบรอยสัก 2 รอยบนศพ ที่ตรงกับของนายลิฟเวลส์เบอร์เกอร์ด้วย

นายแมคมาฮิลล์บอกด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่พบความเชื่อมโยงที่แน่ชัดระหว่างเหตุการณ์นี้ กับเหตุคนร้ายขับรถชนผู้คนที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ฝีมือนาย ชามซุส-ดิน จับบาร์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น แม้ว่า 2 เหตุการณ์นี้จะมีความเหมือนกันหลายอย่าง

ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายเคยประจำการที่ค่าย ฟอร์ท แบรกก์ (Fort Bragg) ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาเหมือนกัน แต่ไม่มีการบันทึกว่าพวกเขาเคยอยู่หน่วยเดียวกัน หรือประจำการที่นั่นในเวลาเดียวกัน พวกเขายังไปรบในอัฟกานิสถานในปี 2552 เหมือนกัน แต่ไม่มีหลักฐานว่า พวกเขาประจำการในภูมิภาคเดียวกันหรืออยู่หน่วยเดียวกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งคู่ยังเช่ารถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาจากบริษัท ทูโร (Turo) เหมือนกันด้วย

ด้านบิดาของนายลิฟเวลส์เบอร์เกอร์บอกกับสำนักข่าว ซีบีเอส นิวส์ ว่า ลูกชายของเขาไปรัฐโคโลราโดเพื่อพบกับภรรยาและลูกสาววัย 8 เดือน โดยเขาพูดคุยกับลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันคริสต์มาส และทุกอย่างดูปกติดี

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc