ตำรวจเกาหลีใต้ได้เข้าตรวจค้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน สำนักงานสายการบินเจจูแอร์ และสถานที่อื่นๆ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบินดังกล่าว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ศพ
ตำรวจเกาหลีใต้ได้เข้าตรวจค้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน สำนักงานสายการบินเจจูแอร์ และสถานที่อื่นๆ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบินดังกล่าว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดชอลลาใต้ได้ดำเนินการค้นหาและยึดสิ่งของที่ท่าอากาศยานมูอัน สำนักงานสายการบินเจจูแอร์ในกรุงโซล และสำนักงานส่วนภูมิภาคของสายการบินเจจูแอร์ ในเมืองปูซาน ตามหมายค้นในข้อหาประมาทเลินเล่อจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีแผนการจะยึดเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการและซ่องบำรุงอากาศยาน รวมถีงการดำเนินกิจการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของสนามบิน ด้านโฆษกของสายการบินเจจูแอร์กล่าวว่า สายการบินกำลังตรวจสอบสถานการณ์อยู่ แต่บริษัทผู้ดำเนินการสนามบินยังไม่แสดงความเห็นในขณะนี้
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ จากกรุงเทพฯ พุ่งชนกำแพงคอนกรีตของท่าอากาศยานนานาชาติมูอันระหว่างลงจอดฉุกเฉิน ทำให้ผู้โดยสาร 179 คน จากทั้งหมด 181 คน บนเครื่องเสียชีวิต ส่วนลูกเรือ 2 คนได้รับการช่วยเหลือ
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศ แสดงความสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่แนวกำแพงคอนกรีตที่ออกแบบมาเพื่อค้ำยันอุปกรณ์นำทาง ซึ่งพวกเขาระบุว่ามีความแข็งเกินไปและอยู่ใกล้กับปลายรันเวย์มากเกินไป
นาจเมดิน เมชกาติ ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า "โครงสร้างที่มีแข็งนี้ได้นำไปสู่หายนะ หลังเครื่องบินที่ไถลออกนอกรันเวย์พุ่งชน" พร้อมแสดงความกังวลถึงเสาอากาศนำทางที่ถูกติดตั้งบนโครงสร้างคอนกรีตที่มีความแข็ง แทนที่จะติดตั้งเสาหรือเสาโลหะมาตรฐาน
...
เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ของสหรัฐฯ สำนักงานบริหารการบินแห่งสหพันธรัฐ (FAA) และบริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้
ยังไม่มีคำตอบว่าเหตุใดล้อลงจอดของเครื่องบินไม่ทำงาน และอะไรทำให้นักบินดูเหมือนจะรีบลงจอดเป็นครั้งที่สอง หลังจากแจ้งศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศว่าเครื่องบินถูกนกชนและประกาศเหตุการณ์ฉุกเฉิน
อุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบิน ซึ่งได้รับความเสียหายบางส่วน กำลังถูกนำไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ โดยความร่วมมือกับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ
ด้านนายชเว ซัง มก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่าการแปลงข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินเป็นไฟล์เสียงน่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 3 ม.ค. นี้ ซึ่งอาจให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เครื่องบินจะประสบเหตุได้
ส่วนเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันพุธว่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะเปิดเผยไฟล์เสียงดังกล่าวต่อสาธารณะ เนื่องจากไฟล์เสียงดังกล่าวจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสืบสวนที่ยังคงดำเนินอยู่
นายชเวกล่าวในการประชุมการจัดการภัยพิบัติว่า จะต้องดำเนินการทันทีหากการตรวจสอบพิเศษของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทุกลำที่ให้บริการในประเทศ มีการพบปัญหาใดๆ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ โดยกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตรวจสอบการบำรุงรักษา การให้ความรู้ และการฝึกอบรมอย่างละเอียดถี่ถ้วน
นายชเวขอให้ทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ เนื่องจากร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกส่งมอบให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้ เขายังขอให้ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่โพสต์ข้อความอันตราย และข่าวปลอมบนโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติครั้งนี้.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign