สหรัฐฯก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยเหตุระทึกถึง 2 เหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งเหตุคนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนคนในนิวออร์ลีนส์ และเหตุรถไซเบอร์ทรัคระเบิดหน้ารร.ในรัฐเนวาดา ซึ่งตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
เหตุรถไซเบอร์ทรัคระเบิดเกิดขึ้นที่ด้านหน้าโรงแรม ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลาสเวกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพและบาดเจ็บอีก 7 ราย ยังคงเป็นปริศนาว่าเป็นความพยายามในการก่อการร้ายหรือไม่ โดยหลังจากการตรวจค้นรถ พบว่ามีทั้งระเบิด กระป๋องแก๊ส และพลุอยู่ภายในรถคันดังกล่าว แถมเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนฝูงชนในเมืองนิวส์ออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 15 ศพเพียงไม่กี่ชั่วโมง
โดยโรงแรม ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลาสเวกัส เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายธุรกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ขณะที่รถไซเบอร์ทรัคที่เกิดระเบิดก็เป็นรถของบริษัทเทสลาของนายอีลอน มัสก์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนทรัมป์ให้คว้าชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และเขากำลังจะก้าวเป็นที่ปรึกษาของทรัมป์ด้วย การก่อเหตุครั้งนี้จึงมีนัยบางอย่างที่ผู้ก่อเหตุจงใจให้เชื่อมโยงกันตามการวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ทางเอฟบีไอบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายหรือไม่ โดยมีข้อมูลว่าทั้งรถไซเบอร์ทรัค และรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุในนิวออร์ลีนส์ถูกเช่าผ่านผู้ให้บริการเจ้าเดียวกัน คือ บริษัทTuro โดยตอนนี้เอฟบีไอสามารถระบุตัวตนของคนขับรถที่เสียชีวิตอยู่ภายในรถได้แล้ว และกำลังดูความเป็นไปได้ว่าวัตถุระเบิดและพลุภายในรถไซเบอร์ทรัคถูกนำไปใช้ในเหตุก่อการร้ายที่นิวออร์ลีนส์ด้วยหรือไม่
...
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยสืบราชการลับกำลังเร่งสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างเหตุโจมตีในนิวออร์ลีนส์ กับเหตุระเบิดไซเบอร์ทรัคหรือไม่
ขณะที่นายอีลอน มัสก์ออกมายืนยันว่า การระเบิดดังกล่าวไม่ได้เกิดจากรถไซเบอร์ทรัค แต่เป็นเพราะวัตถุระเบิดและพลุไฟที่อยู่ภายในรถ.
ที่มา : channelnewsasia
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ สหรัฐอเมริกา