ทางการเกาหลีใต้เตรียมจับกุมประธานาธิบดียุน ซอกยอล ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่หมายจับจะหมดอายุความ พร้อมเตือนเจ้าหน้าที่อารักขาของนายยุน ไม่ให้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย

ผู้อำนวยการสำนักงานต่อต้านการทุจริตเกาหลีใต้ ประกาศการจับกุมประธานาธิบดียุน ซอกยอล ตามหมายจับภายในสัปดาห์หน้า โดยเตือนเจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีไม่ให้ขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย

ทั้งนี้ ศาลแขวงกรุงโซลตะวันตกได้ออกหมายจับนายยุนเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ในข้อหาวางแผนก่อกบฏและใช้อำนาจในทางมิชอบ จากการประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่ได้รับหมายจับ

สำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) ได้ออกหมายจับดังกล่าว เนื่องจากนายยุนไม่มาเข้าสอบปากคำทั้ง 3 ครั้งเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก นายโอ ดงอุน ผู้อำนวยการ CIO กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานฯ จะดำเนินการตามหมายจับ ซึ่งจะมีระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 6 ม.ค. นายโอกล่าวว่า ทีมสอบสวนร่วมกำลังหารือเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลา และจะดำเนินการตามหมายจับภายในระยะเวลาที่กำหนด

เขายังเน้นย้ำว่าหน่วยงานอารักขาของประธานาธิบดี ควรให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามหมายจับของผู้สอบสวน โดยเตือนว่าหากหน่วยงานฯ พยายามขัดขวางการดำเนินการจับกุม การกระทำดังกล่าวอาจเท่ากับเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบและขัดขวางกระบวนการยุติธรรม "เราถือว่าการกระทำ เช่นการตั้งสิ่งกีดขวาง และการล็อกประตูเหล็ก เพื่อขัดขวางการดำเนินการตามหมายจับของเราเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ"

ก่อนหน้านี้ ทีมทนายความของนายยุนกล่าวว่า ไม่สามารถยอมรับหมายจับได้ และเรียกหมายจับว่า "ผิดกฎหมายและไม่ถูกต้อง" โดยให้เหตุผลว่าหมายดังกล่าวออกตามคำร้องขอจากหน่วยงานสืบสวนที่ไม่มีเขตอำนาจศาลที่ชัดเจน และเนื่องจากเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่มีอำนาจในการสอบสวนประธานาธิบดีในข้อหาก่อกบฏ

...

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายยุนได้ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนดำเนินการตามหมายค้นที่มุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีหลายครั้ง และสื่อท้องถิ่นระบุว่า ทางการไม่น่าจะควบคุมตัวนายยุนโดยใช้กำลัง หากไม่ได้ประสานงานกับบอดี้การ์ดของเขา และหากถูกจับกุม ยุนจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกควบคุมตัวในขณะดำรงตำแหน่งประวัติศาสตร์เกาหลีใต้

เขากำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาทางอาญา ในข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบและก่อกบฏ ซึ่งเป็นข้อหาที่ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต จากการที่เขาประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ซึ่งทำให้เกาหลีใต้เข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ.

ที่มา Yonhap

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign