ตำรวจบราซิลเผยว่าพบสารหนูในเลือดของหญิง 1 ใน 3 คนที่เสียชีวิต หลังจากรับประทานเค้กคริสต์มาสที่คาดว่ามีการปนเปื้อนสารหนู
ตำรวจบราซิลเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า พบสารหนูในเลือดของหญิง 1 ใน 3 คนที่เสียชีวิตหลังจากรับประทานเค้กคริสต์มาสที่คาดว่าปนเปื้อนสารพิษ และยังตรวจพบสารพิษร้ายแรงดังกล่าวจากผลการทดสอบเลือดของเด็กชายวัย 10 ขวบ และผู้หญิงที่ทำเค้ก ซึ่งทั้งคู่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
เมื่อบ่ายวันที่ 23 ธ.ค. สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน 5 คนล้มป่วย หลังจากรับประทานเค้กที่งานเลี้ยงในเมืองตอร์เรส รัฐริโอแกรนด์ดูซุล ทางตอนใต้ของบราซิล ตำรวจได้ส่งเค้กดังกล่าวไปตรวจสอบแล้ว และยังพบอาหารหมดอายุหลายรายการระหว่างการค้นบ้านของหญิงรายหนึ่งด้วย และกล่าวเสริมว่ายังไม่ชัดเจนว่าการวางยาพิษที่คาดว่าจะเกิดขึ้นนั้น เป็นการกระทำโดยเจตนาหรือไม่
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าคาดว่าผลการทดสอบเค้กจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ตำรวจได้ขอให้ขุดศพของชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสามีของผู้หญิงที่ทำเค้ก เขาเสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายนจากอาหารเป็นพิษ แต่ตำรวจกล่าวว่าการเสียชีวิตของเขาถือเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ โดยในขณะนี้ เธอไม่ได้ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีทั้งสอง และการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป
โดยพบว่าผู้เข้าร่วมงานฉลองคริสต์มาส 6 ใน 7 คน รับประทานเค้กดังกล่าวในช่วงบ่ายวันจันทร์ รวมทั้งผู้หญิงที่อบเค้กด้วย ตำรวจแจ้งต่อสถานีโทรทัศน์ของบราซิลว่า เธอเป็นคนเดียวที่เชื่อว่ากินเค้กที่ทำเองไป 2 ชิ้น และผลการทดสอบของเธอพบว่ามีสารหนูในระดับสูงสุด
มาร์กอส วินิซิอุส เวโลโซ หัวหน้าตำรวจ กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า สมาชิกในครอบครัวบางคนบ่นว่าเค้กมีรสชาติ "เผ็ด" จากนั้น สมาชิกครอบครัวดังกล่าวก็เริ่มมีอาการ เช่น อาเจียนและท้องเสีย และ 5 คนในจำนวนนี้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 01:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันอังคาร
...
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พี่น้อง 2 คนเสียชีวิตจากอาการหัวใจหยุดเต้น สื่อท้องถิ่นได้ระบุชื่อผู้เสียชีวิตทั้งสองคนว่าคือ ไมดา เบเรนิซ ฟลอเรส ดา ซิลวา อายุ 58 ปี และทาเทียนา เดนิซ ซิลวา ดอส ซานโตส อายุ 43 ปี โรงพยาบาลระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายที่สาม ซึ่งผลการตรวจเลือดพบว่ามีสารหนูปนเปื้อน เสียชีวิตในเวลาต่อมาของวันอังคารที่ผ่านมาด้วยอาการ "ช็อกจากอาหารเป็นพิษ" ผู้เสียชีวิตรายนี้ถูกระบุชื่อในสื่อท้องถิ่นว่า นอยซา เดนิซ ซิลวา ดอส อันโจส อายุ 65 ปี
ทั้งนี้ สารหนูเป็นธาตุโลหะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สารหนูในรูปอนินทรีย์มีพิษร้ายแรงและสหภาพยุโรปจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งประเภทที่ 1 ซึ่งหมายความว่าสารนี้ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ได้ ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ผู้คนได้รับสารหนูอนินทรีย์ในปริมาณที่สูง จากการดื่มน้ำที่ปนเปื้อนหรือใช้ในการเตรียมอาหาร รวมถึงการชลประทานพืชผล กระบวนการอุตสาหกรรม และการสูบบุหรี่
เนื่องจากสารหนูมีอยู่ในดิน จึงสามารถปนเปื้อนในอาหารได้ในปริมาณเล็กน้อย แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วสารหนูจะอยู่ในระดับต่ำมากจนไม่ถือเป็นสารที่น่ากังวลก็ตาม สารหนูยังใช้ในยาฆ่าแมลงและยารักษาโรคด้วย แม้ว่าจะเป็นเพียงกรณีจำกัดก็ตาม.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign