จักรวรรดิเก่าแก่ของโลกที่พอนึกออกในขณะนี้ก็คือ จักรวรรดิอียิปต์ (3100 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จักรวรรดิอัคคาเดียน (2334-2154 ก่อนคริสต์ศักราช) จักรวรรดิเปอร์เซีย (550-330 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จักรวรรดิมาซิโดเนีย (336-323 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จักรวรรดิโรมัน (27 ปีก่อนคริสต์ศักราช-ค.ศ.476) จักรวรรดิฮั่น (206 ปีก่อนคริสต์ศักราช - ค.ศ.220) จักรวรรดิมองโกล (ค.ศ.1206-1368) จักรวรรดิออตโตมัน (ค.ศ.1299-1922) จักรวรรดิอังกฤษ (ค.ศ.1583-1997) และจักรวรรดิโซเวียต (ค.ศ.1922-1991)

สำหรับผมโลกในปัจจุบันมีจักรวรรดิเหลือเพียง 2 แห่ง ถ้าเป็นในเชิงเศรษฐกิจและการเมืองก็คือจักรวรรดิสหรัฐอเมริกา ถ้าในเชิงอำนาจทางเศรษฐกิจก็คือจักรวรรดิจีน ทว่าจักรวรรดิทั้งสองก็ยังโดนควบคุมโดยสถาบันระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่ตั้งโดยพหุภาคี ทวิภาคี อนุภูมิภาค ข้ามภูมิภาค หรือระหว่างภูมิภาค อย่างเช่น องค์การสันนิบาตชาติ (LN) สหประชาชาติ (UN) องค์การกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) องค์การการค้าโลก (WTO) ทบวง การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ฯลฯ

จักรวรรดิสมัยใหม่ทั้งสหรัฐฯและจีน ไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจแบบเก่าเพราะมีสถาบันระหว่างประเทศบานเบอะเยอะแยะ จะกระดิกพลิกตัวในเรื่องใดก็จะติดเรื่องที่ตัวเองเป็นภาคี

สมัยก่อนตอนที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก ค.ศ.2017–2021 ทรัมป์ถอนตัวหรือประกาศความตั้งใจที่จะถอนตัวจากองค์กรและข้อตกลงระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น ข้อตกลงการค้า Trans–Pacific Partnership (TPP) ทันทีที่รับตำแหน่ง ในวันแรกของการเป็นประธานาธิบดี ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารถอนสหรัฐฯออกจาก TPP ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าระหว่าง 12 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก

...

ปีแรกที่เป็นประธานาธิบดี ทรัมป์ประกาศจะถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Paris Agreement ทรัมป์ให้เหตุผลว่าข้อตกลงนี้ไม่เป็นธรรมต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ การถอนตัวมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2020

ค.ศ.2017 สหรัฐฯประกาศถอนตัวจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) โดยให้เหตุผลว่า องค์กรนี้มีอคติต่ออิสราเอล การถอนตัวมีผลในวันที่ 31 ธันวาคม 2018

เรื่องอิสราเอลนี่ทำให้ทรัมป์ประกาศถอนตัวออกจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ใน ค.ศ. 2018 โดยอ้างว่าองค์กรนี้มีอคติต่ออิสราเอล และไม่สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค.ศ.2018 ทรัมป์ประกาศถอนสหรัฐฯออกจาก Joint Compre hensive Plan of Action หรือ JCPOA ภาษาไทยก็คือข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่เป็นข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจหลายประเทศ

ทรัมป์ดำเนินนโยบาย America First มุ่งปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯและลดความเกี่ยวข้องกับองค์กรและข้อตกลงระหว่างประเทศ จะได้ใช้ไม้ไล่ตีหนูได้ตามสบายใจ ในฐานะผู้นำโลก ในฐานะจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ประกาศว่าจะยึดคลองปานามากลับมาเป็นของสหรัฐฯ ซึ่งถ้าสหรัฐฯทำจริงๆ ชาติกระจิดริดกระจ้อยร่อยอย่างปานามาก็ทำอะไรสหรัฐฯไม่ได้ แล้วก็คงจะไม่มีชาติไหน ประเทศใด ที่จะกล้าเอามือไปซุกหีบ ไปช่วยปานามา

22 ธันวาคม 2024 คณะทำงานของทรัมป์บอกกับผู้เชี่ยวชาญว่า ในวันสาบานตนเป็นประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม 2025 มีแนวโน้มว่าทรัมป์จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งทรัมป์เคยถอนตัวออกไปแล้วในตอนเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ไบเดนกลับมาลงนามเป็นสมาชิกใหม่ในวันที่ 20 มกราคม 2021

ผู้อ่านท่านผู้เจริญ โลกจะกลับไปสู่ยุคก่อน ในยุคที่คนตัวใหญ่ตีคนตัวเล็กได้ตามใจชอบ กฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายโลกไม่มีจริง พวกไอ้คนตัวเล็กละเมอเพ้อพกกันอย่างลมๆแล้งๆ ว่าองค์การระหว่างประเทศจะช่วยพวกตนได้ ถ้าพวกตัวใหญ่ถอนตัวออกไปหรือไม่ทำตามข้อตกลงในสนธิสัญญา ไอ้พวกตัวเล็กทั้งหลายก็ได้แต่แบะๆแหะๆแหงะๆ

พวกตัวเล็กก็ต้องกลับมาสะสมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง

อาวุธสร้างเองไม่ได้ก็ต้องไปซื้อจากสหรัฐฯ

ไอ้คนไหนไม่ซื้อก็อาจจะมีซีไอเอไปสนับสนุนให้ประเทศรอบข้างมาทะเลาะเบาะแว้งด้วย ศัตรูมีอาวุธ ตัวเองไม่มีก็เสียเปรียบ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม