ชอลลานัมโด อู่ข้าวอู่น้ำโสมขาว

จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวไทย ที่หลายคนอยากสัมผัสบรรยากาศและประสบการณ์ดีๆสักครั้ง คงหนีไม่พ้น “กรุงโซล” ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งมากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะย่านฮงแด ย่านเมียงดง หรือแม้แต่การตามรอยซีรีส์ และศิลปินเคป๊อปตามสถานที่ต่างๆ

ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีแห่งประเทศไทย (Korea Tourism Organization) เผยว่าในปี 2562 มีชาวไทยเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีใต้มากถึง 571,610 คน แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้แผนการท่องเที่ยวหยุดชะงัก ส่วนในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวไทยมายังเกาหลีใต้อยู่ที่ 379,442 คน ขณะที่นับแต่เดือน ม.ค. จนถึงเดือน พ.ย. ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 288,194 คนเท่านั้น

จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางการเกาหลีใต้ตัดสินใจเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพื่อเผยความงดงามของประเทศที่ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักคือ “จังหวัดชอลลานัมโด” หรือ “จังหวัดชอลลาใต้” ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ พื้นที่ที่มีอุณหภูมิอบอุ่นมากสุดในคาบสมุทรเกาหลี เหมาะแก่การทำการเกษตรและมีผลผลิตทางการเกษตรมากมาย เช่น ข้าวบาร์เลย์ ฝ้ายและมันฝรั่ง จนถูกเรียกว่าแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำ โดยช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เดินทางเยี่ยมชม 5 เมือง คือ ยอซู มกโพ มูอัน นาจู และควังจู

สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดชอลลานัมโด นอกจากจะเริ่มต้นได้หลายทาง เช่น กรุงโซล หรือนครปูซาน ยังบินตรงมาลงที่ สนามบินนานาชาติมูอัน ในเมือง “มูอัน” เพื่อเดินทางไปเมืองอื่นๆได้ง่าย เนื่องจากอยู่ติดกับมกโพ นาจู และควังจู และปัจจุบันกำลังก่อสร้างรางรถไฟความเร็วสูงเคทีเอ็กซ์ (KTX) เชื่อมต่อกับกรุงโซล คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 ซึ่งจะทำให้เดินทางสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วนการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่การนั่งรถบัสจากสนามบินนานาชาติกิมแฮ ปูซาน มาที่เมือง “ยอซู” ที่เปรียบเสมือนกับไข่มุกแห่งเกาหลีใต้ เพราะตั้งอยู่ริมทะเลของคาบสมุทรเกาหลี จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมอาหารทะเลของที่นี่จึงสดและอร่อย มีเมนูโดดเด่นคือปูทะเลดอง และปลาดาบย่างที่ร้านฮวังกึมเกจัง รวมถึง “กัตกิมจิ” หรือกิมจิวาซาบิ โดยคิม ซุนจัง ผู้สอนทำกิมจิที่ กัตโกอึล เซ็นเตอร์ (Gatgoeul Center) บอกว่ารสชาติซอสของที่นี่จะต่างจากซอสกิมจิที่เราคุ้นชิน เพราะมีส่วนผสมของปลาเล็กปลาน้อยจึงจะมีรสชาติเค็ม พร้อมบอกเคล็ดลับการกินกัตกิมจิให้อร่อยด้วยว่า ต้องทิ้งไว้ 3 วัน จึงจะได้รสชาติกลมกล่อม และผักกรอบกำลังดี

ยอซูยังมีสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคืองานศิลปะอย่าง ยอซู อาร์ต แลนด์ (Yeosu Art Land) สถานที่ให้เชยชมงานศิลปะต่างๆที่ถูกแบบออกเป็น 2 โซน คือ อาร์ตแลนด์ เป็นพื้นที่ของงานประติมากรรมตั้งตระหง่านสลับไปกับเหล่าแมกไม้ ควบคู่ไปกับวิวทะเลสีคราม ที่มีไฮไลต์สำคัญอย่างประติมากรรมรูปมือขนาดยักษ์ ส่วนทริกอาร์ตเป็นงานศิลปะ 3 มิติ ให้ได้โพสท่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก รวมถึงมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะยอซู (Arte Museum) พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะในรูปแบบมัลติมีเดีย ขอบอกเลยว่าสามารถเสพงานศิลป์ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้ทั้งวันไม่รู้จักเบื่อ

สำหรับเมือง “มกโพ” หนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศ ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ อย่างมกโพ ฟู้ด แกลลอรี-แฮกวาน 1897 (Mokpo Food Gallery-Haegwan 1897) เคยเป็นโกดังเก็บสินค้าของศุลกากร ได้รับการรีโนเวทโดยคงโครงสร้างเดิมไว้กลายเป็นร้านอาหาร และสถานที่จัดงานต่างๆ ภูเขายูดัลซาน (Yudalsan) ความสูง 228 เมตร สามารถชื่นชมท่าเรือมกโพอันสวยงาม ใกล้กันมี พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สมัยใหม่มกโพ (Mokpo Modern History Museum) เคยเป็นสถานกงสุลของญี่ปุ่นเมื่อช่วงปี 2440 ทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องโฮเทล เดล ลูนา (Hotel Del Luna) ก่อนมารับชมพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับวิวทะเลแสนงามบนมกโพ สกาย วอร์ก (Mokpo Sky Walk)

เรายังได้แวะเมือง “นาจู” ที่ 3917 มาจุง (3917 Majung) บ้านสไตล์ฮันอก บ้านทรงโบราณที่ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก ลิ้มรสของขึ้นชื่ออย่างลูกแพร์รสชาติหวานหอม ท่ามกลางต้นแปะก๊วยใบสีทองอร่าม ก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ เมือง หลักคือ “ควังจู” ดินแดนที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้กับรัฐบาลทหาร ซึ่งเหตุการณ์เมื่อ 18 พ.ค.2523 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 200 ราย เรียนรู้เรื่องราวใน อาคารจอนอิล 245 (Jeonil Building 245) อาคารสูง 10 ชั้นอดีตตึกสำนักข่าวจอนอิล ที่เคยถูกกองทัพยิงถล่มในช่วงการประท้วงในปีเดียวกัน

พร้อมเยี่ยมชม เอเชีย คัลเจอร์ เซ็นเตอร์ (Asia Culture Center) ศูนย์แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในควังจู ยังเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะให้คนทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมและใช้งานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เช่น นิทรรศการศิลปะ ห้องสมุด และศูนย์การเรียนรู้ ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเอ็กซูม่า (Exhuma) อีกด้วย

จังหวัดชอลลานัมโดยังเป็นสถานที่ที่รัฐบาลผลักดัน “การท่องเที่ยวเชิงไมซ์” (MICE) ที่ได้ทั้งการประชุม รวมถึงการศึกษาดูงาน อย่างเช่น ยอซู เคยเป็นสถานที่จัดนิทรรศการระดับโลก เวิลด์ เอ็กซ์โป ในปี 2558 ที่ ยอซู เอ็กซ์โป คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ (Yeosu Expo Con vention Center) ศูนย์ประชุมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง อยู่ใกล้กับโรงแรมหลายแห่งจึงใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 5-15 นาทีก็ถึงที่หมาย โดยมีพื้นที่รองรับการจัดประชุมในทุกรูปแบบ รวมถึงเป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆของเมือง หรือจะเป็นศูนย์ประชุมคิม แดจุง (Kimdaejung Convention Center) ในควังจู ซึ่งยังมีฮอลล์ สำหรับจัดแสดงงานคอนเสิร์ตต่างๆได้เช่นกัน

การเยือนครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเกาหลีใต้ยังมีหลายสถานที่และเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าสำรวจมากมาย แต่ปัจจุบันความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผลให้ชาวไทยบางส่วนเปลี่ยนใจไปเที่ยวที่อื่นแทนเพราะไม่อยากเสี่ยงถูกส่งกลับประเทศ รวมถึงกระแส “แบนเที่ยวเกาหลี” ยิ่งทำให้คนมีทัศนคติเชิงลบกับเกาหลีใต้มากขึ้น

นั่นจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เกาหลีใต้ยังแก้ไขไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้ไม่เผยนามรายหนึ่งระบุว่า จริงๆแล้วก็ได้รับรายงานเรื่องการปฏิเสธชาวไทยไม่ให้เข้าประเทศมาโดยตลอด และไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่การท่องเที่ยวกับกฎหมายสามารถเจรจากันได้ยาก เราจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก.

อาทิตญา ทาแป้ง

คลิกอ่านคอลัมน์ “7 วันรอบโลก” เพิ่มเติม