องค์การยูเนสโก ประกาศให้สาเกญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของ "มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ" ร่วมกับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมจากทั่วโลก เช่นเดียวกับต้มยำกุ้งของไทย 

สาเก ไวน์ข้าวของญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้อีก 1 รายการ นอกเหนือจากต้มยำกุ้งของไทย ชีสขาวบราซิล ขนมปังจากมันสำปะหลังของแคริบเบียน และสบู่มะกอกจากปาเลสไตน์ โดยสาเกเป็นไวน์ข้าวที่นุ่มนวล มีบทบาทสำคัญในประเพณี หรืองานฉลองต่างๆของญี่ปุ่น และถือเป็นเครื่องดื่มที่มีความสำคัญไม่ต่างจากซูชิในวัฒนธรรมญี่ปุ่น

นายคาโน ทาเคฮิโระ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำยูเนสโก นี่เป็นข่าวดีที่มีความหมายมากสำหรับญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตสาเก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจในการผลิตสาเกแบบดั้งเดิม ทั้งในญี่ปุ่นและนอกญี่ปุ่นต่อไป

สำหรับกระบวนการผลิตสาเกจะใช้ "โคจิ" ซึ่งเป็นเชื้อราที่ใช้ในข้าว เพื่อแปลงแป้งข้าวให้กลายเป็นน้ำตาลที่สามารถหมักได้ ซึ่งคล้ายกับกระบวนการการผลิตเบียร์ที่ใช้มอลต์ในการหมัก ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น ข้าวถือเป็นสัญลักษณ์ที่มีอิทธิพลทางการตลาดอย่างมากในฐานะส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ

...

ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตสาเกและโชจูญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นมีการส่งออกสาเกมูลค่ากว่า 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปยังสหรัฐอเมริกาและจีน.

ที่มา : เอพี

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ ยูเนสโก