• แคช ปาเทล ผู้ช่วยใกล้ชิดนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่อจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ คนใหม่ ทั้งๆ ที่ผอ.คนเก่า ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยทรัมป์เมื่อปี 2017 ยังไม่หมดวาระ จนถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย
  • การทำหน้าที่ของปาเทลจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผอ.FBI คนปัจจุบันต้องยอมลาออก หรือต้องมีการไล่เขาออกเท่านั้น แต่ตัวเลือกเหล่านี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้เสมอ จนกว่าทรัมป์จะขึ้นสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

นายแคช ปาเทล เป็นตัวเลือกล่าสุดของของโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ โดยนายปาเทลได้ให้การสนับสนุนทรัมป์และพรรครีพับลิกันอย่างเหนียวแน่น เขาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทรัมป์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา และเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลาโหมสหรัฐฯในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก

การแต่งตั้งให้ ปาเทล เป็นผู้นำ FBI จะต้องมีการไล่ออกผู้อำนวยการคนปัจจุบัน คริสโตเฟอร์ เรย์ ซึ่งทรัมป์เป็นคนแต่งตั้งเองในปี 2017 ก่อนที่เขาจะครบวาระ 10 ปีในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสองพรรค โดยผู้อำนวยการ FBI จะต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภากำลังเตรียมตัวรับมือกับการเลือกสรรบุคคลที่ไม่ธรรมดาของทรัมป์

ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คนใกล้ชิดทรัมป์บางคนเชื่อว่าเขาอาจเลือกระหว่างปาเทล และ แอนดรูว์ ไบลีย์ อัยการสูงสุดของรัฐมิสซูรี แต่มีกระแสว่าคนใกล้ชิดของทรัมป์ยังไม่พอใจกับทั้งสองตัวเลือก และอาจจะมีตัวเลือกที่สามออกมาอีกก็ได้

การโจมตี "Deep State"

ในหนังสือของปาเทลเมื่อปี 2023 ที่ชื่อ "Government Gangsters: The Deep State, the Truth, and the Battle for Our Democracy" นายปาเทลได้กล่าวโจมตีสิ่งที่เขาเรียกว่า "Deep State" ซึ่งหมายถึงกลุ่มทางการเมืองที่กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังรัฐ และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทรัมป์ ทั้ง นักการเมือง, สื่อมวลชน, และเจ้าของธุรกิจใหญ่ๆ รวมถึงข้าราชการ โดยทรัมป์ได้ยกย่องหนังสือของ ปาเทล ว่าเป็นแผนที่จะช่วยคืนทำเนียบขาวและกำจัด "พวกอันธพาล" ออกไปจากรัฐบาลได้

...

นายปาเทลยังวิจารณ์ FBI อย่างหนัก โดยเขากล่าวในพอดแคสต์ในเดือนกันยายนว่า FBI ควรยุบสำนักงานใหญ่ในวอชิงตันและเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของฝ่ายตรงข้ามทรัมป์แทน

เขายังวิพากษ์วิจารณ์ FBI ที่ออกหมายค้นที่มาร์-อา-ลาโก หรือบ้านพักของทรัมป์ ในปี 2022 ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องการเก็บเอกสารลับ แต่ภายหลังผู้พิพากษาก็ยกเลิกข้อกล่าวหาดังกล่าว

และในการให้สัมภาษณ์กับสตีฟ แบรนนอนเมื่อปี 2023 อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์รายนี้ ยังระบุด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมที่อยู่ภายใต้อำนาจของทรัมป์ จะมีการเอาคืนสื่อต่างๆอย่างแน่นอน โดยเขายังกล่าวหาว่ามีการใช้ทฤษฎีสมคบคิด ทั้งจากรัฐบาลและจากสื่อเพื่อช่วยเหลือให้โจ ไบเดนได้เปรียบในการเลือกตั้ง ซึ่งเขาและกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯจะตามล่าคนเหล่านี้ที่โกหกชาวอเมริกันมาลงโทษ

ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง เขาเคยพิจารณาให้ ปาเทล เป็นรองผู้อำนวยการ FBI มาแล้ว แต่บิล บาร์ อดีตอัยการสูงสุดของทรัมป์ได้เขียนในบันทึกความทรงจำของเขาว่า ปาเทล ไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะทำงานในระดับสูงสุดของ FBI และระบุว่าหากปาเทลจะขึ้นมาเป็นรองผอ. FBI ก็ต้องข้ามศพเขาไปก่อน

ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ดิก เดอร์บิน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตุลาการวุฒิสภาคนปัจจุบัน ระบุว่าปาเทลมีแต่ความภักดี แต่ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ ส่วนวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต คริส เมอร์ฟี ก็กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า นายปาเทลมีคุณสมบัติแค่เพียงอย่างเดียว คือ เขาเห็นด้วยกับโดนัลด์ ทรัมป์ว่า กระทรวงยุติธรรมควรใช้เพื่อทำโทษ กักขัง และข่มขู่คู่ต่อสู้ทางการเมืองของทรัมป์

ส่วน ชัค กราสลีย์ ซึ่งจะเป็นประธานคณะกรรมการตุลาการวุฒิสภาคนใหม่ ก็วิจารณ์ คริสโตเฟอร์ เรย์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ FBI คนปัจจุบันว่า ล้มเหลวในการทำงานในตำแหน่งนี้ แต่ปาเทลเองก็ต้องพิสูจน์ให้สภาคองเกรสเห็นว่าเขาจะทำได้ดีกว่าเรย์ด้วย

เส้นทางสู่แวดวงการเมือง

ปาเทล ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นชาวนิวยอร์กโดยกำเนิด เติบโตมาในครอบครัวชาวฮินดูอพยพ ตามที่เขาได้เขียนในหนังสือของเขา เขาบอกว่าเขาเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่สนใจการเมือง แต่เริ่มมีแนวโน้มทางการเมืองขวาจัดมากขึ้นในช่วงที่เรียนที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์ 

ปาเทล จบการศึกษาปริญญาตรีด้านความยุติธรรมทางอาญาและประวัติศาสตร์ จาก University of Richmond เขาได้รับประกาศนียบัตรด้านกฎหมายระหว่างประเทศจาก University College London และจบนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตจาก Pace University School of Law จากนั้นเขาทำงานเป็นทนายความประจำรัฐฟลอริดาประมาณ 9 ปี เขาเคยทำงานในสำนักงานทนายความประจำรัฐของ Miami-Dade County และใน Southern District of Florida

ต่อมา ปาเทล ได้ทำงานเป็นอัยการในส่วนงานความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเขาบอกว่าเป็น “งานในฝัน” สำหรับทนายความหนุ่มทุกคน

ที่กระทรวงยุติธรรม ปาเทลดูแลการดำเนินคดีต่ออาชญากรที่เกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ ไอซิส และกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกระทรวงยุติธรรมในการประสานงานกับบัญชาการในการปฏิบัติการตามเป้าหมายการก่อการร้ายที่มีมูลค่าสูง

ในปี 2018 ปาเทล ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้แก่ นายเดวิน นูเนส สมาชิกสภาผู้เแทนราษฎรพรรครีพับลิกัน ในคณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎร โดยปาเทลมีบทบาทสำคัญในการพยายามลดทอนความน่าเชื่อถือของการสอบสวนรัสเซียของ FBI เกี่ยวกับแคมเปญของทรัมป์ รวมถึงการจัดทำบันทึกลับที่กล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิด FISA ของ FBI ต่อที่ปรึกษาของทรัมป์

การเข้าร่วมรัฐบาลทรัมป์

ในปี 2019 ปาเทล เข้าทำงานกับทรัมป์ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ  ก่อนจะเป็นหัวหน้าผู้ช่วยของรักษาการรัฐมนตรีกลาโหม คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ในช่วงปลายเทอมแรกของทรัมป์ โดยทรัมป์เคยเล็งที่จะให้ ปาเทล ขึ้นมาแทน จีนา แฮสเปล ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ CIA ในขณะนั้น ก่อนที่เขาจะพิจารณาปลดเธอหลังการเลือกตั้งในปี 2020 นอกจากนี้เขายังได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลการเปลี่ยนแปลงภายในกระทรวงกลาโหมในการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทรัมป์ไปสู่รัฐบาลไบเดน

...

ปาเทล ยังเกี่ยวข้องกับคดีเอกสารลับของทรัมป์ ซึ่งตอนนี้ได้ถูกยกฟ้องไปแล้วด้วย ในช่วงฤดูร้อนปี 2022 เขาได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็นตัวแทนในการติดต่อกับ สำนักหอจดหมายเหตุ และกระทรวงยุติธรรม ในขณะที่ทั้งสองหน่วยงานพยายามจะนำเอกสารลับที่ทรัมป์เก็บรักษาไว้หลังจากเสร็จสิ้นการดำรงตำแหน่งกลับคืนมา และเขายังเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของทรัมป์หลังการดำรงตำแหน่งด้วย

ในปี 2021 ปาเทลได้เข้าพบกับคณะกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังสืบสวนการโจมตีที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 มกราคม ซึ่งพบว่า “มีเหตุผลที่น่าเชื่อถืออย่างมาก” ว่า ปาเทล มีข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการตอบสนองของกระทรวงกลาโหมและทำเนียบขาวต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : CNN ,BBC

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ FBI