แคเทอริน หว่อง เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ฝากสารมายังไทยรัฐ ถึงกรณีนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง จะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นผู้นำรัฐบาลคนแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะให้การต้อนรับ

โดยกรณีนี้เอกอัครราชทูตมองว่า การมาเยือนครั้งนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสิงคโปร์และไทยกำลังเตรียมความพร้อมสู่การเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปีหน้า ทั้งยังตรงกับวาระครบรอบ 60 ปีการสถาปนาประเทศสิงคโปร์ ไทยถือเป็นชาติแรกๆ ที่ให้การรับรองเอกราชของสิงคโปร์ในปี 2508

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชาติยังย้อนไปได้ไกลกว่านั้น ในปี 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จประพาสสิงคโปร์ ในโอกาสนั้น พระองค์พระราชทานรูปปั้นช้างสำริดแก่ประชาชนสิงคโปร์เป็นที่ระลึก ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน ปัจจุบันอนุสาวรีย์ยังตั้งตระหง่านอยู่หน้ารัฐสภาหลังเก่าของสิงคโปร์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงประวัติศาสตร์มิตรภาพ

เราสองประเทศเป็นพันธมิตรที่มั่นคงในหลายด้านทั้งกลาโหม และการค้า ความสัมพันธ์รอบด้านนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไว้วางใจและผลประโยชน์ร่วม สิงคโปร์และไทยต่างเป็นคู่ค้าสิบอันดับแรกของกันและกันมาโดยตลอด สิงคโปร์ยังเป็นนักลงทุนที่ปักฐานมั่นคงในประเทศไทยเพราะเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย

แม้ความสัมพันธ์ของพวกเราจะเติบโตเต็มที่แล้ว พวกเรายังคงมองหากรอบความร่วมมือใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่การเป็นผู้บุกเบิกในหลายด้าน เช่นปี 2564 สิงคโปร์และไทยได้สร้างการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ระหว่าง PayNow ของสิงคโปร์และ PromptPay ของไทย เพื่อให้ประชาชนสามารถโอนเงินได้อย่างรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา สิ่งนี้ได้วางรากฐานให้ทั้งสองประเทศสามารถแสวงหาช่องทางการชำระเงินข้ามพรมแดนที่สะดวกภายในอาเซียนและประเทศอื่นๆต่อไป

...

ทั้งนี้ ยังมีสิ่งที่พวกเราสามารถร่วมมือกันได้อีกมากมาย หวังว่าการเยือนของนายกรัฐมนตรีหว่องจะผลักดันให้ทั้งสองประเทศประกาศความร่วมมือโฉมใหม่ที่น่าสนใจ ปีหน้าการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ ทางการทูต ภายใต้หัวข้อ “Singapore– Thailand : Realising Opportunities for New Growth–STRONG @ 60”หัวข้อนี้ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างสองเรา และสะท้อนถึงความปรารถนาที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น...ที่สำคัญกว่านั้น ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดบนรากฐานแข็งแกร่งระหว่างสิงคโปร์และไทย เพื่อกำหนดวาระอันทะเยอทะยาน พร้อมทั้งเปิดประตูบานใหม่เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ.

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม