สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จับผู้ต้องสงสัย 3 คนที่อาจเกี่ยวข้องกับการตายของ นักบวชชาวยิวที่หายตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะที่อิสราเอลอัปเดตคำแนะนำการเดินทางไปยูเออี

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. 2567 กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกแถลงการณ์ยืนยันการพบศพของ แรบไบ ซวี โคกาน ซึ่งหายตัวไปในนครดูไบ ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) และเปิดเผยเรื่องการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนักบวชยิววัย 28 ปีรายนี้

แรบไบโคกานหายตัวไปเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี โดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ “ชาบัด” องค์กรศาสนายิวในยูเออี ระบุว่า ชายคนนี้ถูกลักพาตัวไปจากนครดูไบ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐที่ประกอบกันเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

หลังข่าวการพบศพแรบไบโคกาน ได้รับการเปิดเผยออกมา สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลก็ออกแถลงการณ์ทันทีว่า การตายของแรบไบผู้นี้เป็นการฆาตกรรม และนี้เป็นการก่อการร้ายภายใต้แนวคิดต่อต้านชาวยิว (antisemitic) ซึ่งอิสราเอลจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อนำตัวอาชญากรที่ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของเขา มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

รัฐบาลยังได้ออกคำแนะนำการเดินทางอย่างเป็นทางการ เพื่อเตือนประชาชนที่ต้องการไปยูเออีอีกครั้งว่า ให้เดินทางเมื่อมีเหตุผลจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายในยูเออี ทำให้มีความเสี่ยงอย่างแท้จริงต่อชาวอิสราเอล ที่อาศัยหรือเดินทางไปเยือนประเทศนี้

ทั้งนี้ แรบไบโคกานทำงานร่วมกับผู้แทนคนอื่นๆ ของ ชาบัด สร้างและขยายศาสนายิวในยูเออี เขายังเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์การศึกษาของชาวยิวแห่งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงมีส่วนช่วยทำให้เริ่มมีอาหารโคเชอร์ (kosher food) ให้บริการในยูเออีเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย

...

สิ่งหนึ่งที่น่าเศร้าในคดีนี้คือ น.ส.ริฟกี ภรรยาของแรบไบโคกาน ซึ่งถือสัญชาติอเมริกัน ต้องเสียสามีในเหตุฆาตกรรม หลังจากเสียลุง ผู้เป็นนักบวชยิวเช่นกัน ในเหตุก่อการร้ายที่นครมุมไบของอินเดีย เมื่อปี 2551

อนึ่ง อิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บรรลุข้อตกลงฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากเป็นอริกันมานาน โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลางเจรจา และทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ได้ หลังเกิดสงครามอิสราเอลฮามาส ในฉนวนกาซา

แต่ในระดับท้องถิ่น ชาวยิวและอิสราเอลในยูเออี ออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะน้อยลง นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น ขณะที่โบสถ์ยิวอย่างไม่เป็นทางการในดูไบ ก็ต้องถูกปิด ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn